นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทคกล่าวว่า ดีแทคและบริษัทกสท โทรคมนามคม จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่ตามประกาศ กสทช. ในการนำคลื่นความถี่ 800-900 เมกะเฮิรตซ์(MHz) และ 1800 MHz มาให้บริการกับลูกค้า ซึ่งเป็นการให้บริการแทนรัฐเพื่อไม่ให้ลูกค้าซิมดับ อันเนื่องจากสัญญาสัมปทานดังกล่าวกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ก.ย.นี้
อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังมีลูกค้าดีแทคที่ยังคงค้างอยู่ในคลื่นย่าน 800 และ1800 MHzอีกจำนวนมาก ยังไม่อาจโอนย้ายไปยังผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายอื่นได้ทั้งหมด ดีแทค และกสทฯ จึงเล็งเห็นความสำคัญและความจำเป็นของลูกค้าที่ต้องใช้งานมือถือ จะต้องได้รับความคุ้มครองและไม่กระทบการใช้งานตามที่เคยมีกรณีสิ้นสุดสัมปทานคลื่นความถี่กับผู้ให้บริการรายอื่น และยังมีลูกค้าคงค้างในระบบเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ดีแทค และ กสทฯ จึงได้ร่วมมือกันยื่นแผนความคุ้มครองลูกค้าในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ต่อ กสทช. และพร้อมปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ตามมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต สัมปทานหรือสัญญาการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้สัญญาให้บริการเดิมจากการที่คลื่นความถี่ 1800 และ800 MHz ที่ถือครองกำลังจะสิ้นสุดสัมปทาน เพื่อให้ลูกค้าดีแทคที่ยังอยู่ในระบบสัมปทานเดิม ซิมไม่ดับและมั่นใจในการใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
“ดีแทคจะรักษาคุณภาพการให้บริการเป็นไปตามมาตรฐานและประกาศของ กสทช. ที่เกี่ยวข้องพร้อมดูแลลูกค้าให้ได้บริการที่ดีที่สุดอย่างต่อเนื่อง โดยจะดำเนินการในการส่งเสริมการโอนย้ายลูกค้าที่ยังคงค้างในระบบด้วยข้อเสนอทางการตลาด เพื่อให้ลูกค้าที่ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญยิ่งมีอยู่จำนวนหนึ่งได้มีประสบการณ์ในการใช้งานระบบดิจิทัล และเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้าที่ใช้งาน 2จี จะได้เข้าสู่ระบบดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบน 4จีและ 3จีรวมถึงสิทธิของผู้ใช้บริการในการโอนย้ายหมายเลขโทรศัพท์” นายลาร์ส กล่าว
ด้านนายราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มกิจการองค์กรและพัฒนาธุรกิจ ดีแทค กล่าวว่า ตามเงื่อนไขของกสทช.ต้องมายื่นแผนการเยียวยาไม่น้อยกว่า 90 วันก่อนที่สัมปทานจะสิ้นสุดลง
ทั้งนี้ ในการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่าน 1800 MHzของกสทช.ในวันที่ 4 ส.ค.นั้น แม้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าดีแทคเข้าประมูลหรือไม่ หรือจะเกิดการประมูลหรือไม่นั้น การยื่นร่างแผนการคุ้มครองลูกค้าก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการประมูลเกิดขึ้นก็อาจจะเป็นช่วงรอยต่อซึ่งหากไม่มีการวางแผนหรือร่างแผนการคุ้มครองลูกค้าก็อาจจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่อยู่ในทั้ง 2 ย่านอาจเกิดปัญหาซิมดับได้ 2 ล้านราย
สำหรับแผนคุ้มครองผู้ใช้บริการที่เสนอต่อ กสทช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ จะยึดหลักในการทำเพื่อประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญและต้องมั่นใจในการใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง หรือซิมไม่ดับ โดยระยะเวลาการคุ้มครองสิทธิ์ของลูกค้าจะดำเนินต่อไปจนกว่าคลื่นความถี่เดิมจะถูกนำไปใช้งานด้วยการจัดสรรให้ผู้ประกอบการรายใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ส่งเอกสารแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการไม่เข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน1800 MHzโดยระบุว่า คณะผู้บริหารได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า ไม่ควรเข้าร่วมการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 และล่าสุดได้มีการส่งเอกสารถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อชี้แจงแก่นักลงทุน และขอย้ำว่าการพิจารณาดังกล่าวได้เป็นไปอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าและนักลงทุน ซึ่งจะไม่ทำให้บริษัทเสียโอกาสแต่อย่างใดรวมทั้ง จะไม่ส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดของทรูมูฟ เอชเนื่องจากปริมาณคลื่นที่มีอยู่ของยังมีมากพอที่จะรองรับลูกค้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี