นายชิต เหล่าวัฒนา กรรมการคลัสเตอร์หุ่นยนต์ เปิดเผยว่าหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจะมีความสำคัญกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานจากการสำรวจความต้องการใช้หุ่นยนต์ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคการผลิตที่มีกว่า 3 แสนราย ในจำนวนนี้มีอยู่ประมาณ 1 แสนรายที่ต้องการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรมาใช้หุ่นยนต์ซึ่ง 85% บอกว่าหากไม่เปลี่ยนจะอยู่ไม่ได้ ปัจจุบันมีความต้องการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติปีละ 1.4 แสนล้านบาท คาดว่าปีนี้จะมีการลงทุนปรับเปลี่ยนมาใช้หุ่นยนต์มากกว่า 6 หมื่นล้านบาท
จากความต้องการใช้หุ่นยนต์ที่เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ผลิตหุ่นยนต์ต่างชาติสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นซึ่งจากการที่นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เดินทางไปเยือนต่างประเทศ ผู้ผลิตหุ่นยนต์จากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีนต่างให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย โดยเจเทค จะสนับสนุนให้บริษัทในประเทศญี่ปุ่นเข้ามาร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในไทย ปรับเปลี่ยนมาใช้หุ่นยนต์และเข้ามาลงทุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในไทยส่วนเกาหลีใต้ก็มีผู้ผลิตหุ่นยนต์รายใหญ่ได้เตรียมที่จะเข้ามาลงทุนในไทย
ช่วงแรกจะส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการออกแบบและบูรณาการระบบหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (เอสไอ) ของไทยให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 250 ราย ให้เป็น 1.4 พันราย ภายใน 5 ปี ซึ่งจะช่วยสร้างรากฐานการผลิตหุ่นยนต์ในไทย และทำให้มีความต้องการใช้หุ่นยนต์เพิ่มขึ้นจนเกิดการตั้งโรงงานผลิตหุ่นยนต์ในไทย โดยผู้ประกอบการญี่ปุ่นมองว่าจะต้องผลิตให้ได้ 6-6.5 พันตัวต่อปี จึงจะคุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ผู้ประกอบการไทยมองว่ามีกำลังการผลิตปีละ 500 ตัว ก็คุ้มกับการลงทุนแล้ว เพราะเป็นโรงงานขนาดเล็ก ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่นำหุ่นยนต์เข้าไปใช้ก็จะคืนทุนได้ภายใน 4-5 ปี
นายณัฐพล รังสิตพล รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) กล่าวว่า สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เอสเอ็มอีต้องปรับตัวเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยนำระบบอัตโนมัติ และเทคโนโลยีหุ่นยนต์เข้ามาใช้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสศอ.ตั้งเป้าหมายว่า ภายในปีนี้จะมีการลงทุน ในการใช้ระบบระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ และมีการลงทุนผลิตขึ้นในประเทศไทยได้เองด้วย วงเงินประมาณ 12,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปี จะเพิ่มเป็น 200,000 ล้านบาท ช่วยลดการนำเข้าหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติจากต่างประเทศได้ 30% หรือประมาณ 80,000 ล้านบาท และยังสามารถส่งออกได้ในปี 2569
นายประพิณ อภินรเศรษฐ นายกสมาคมผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (ทารา) กล่าวว่าที่ผ่านมาภาครัฐเคยระบุว่า จะกำหนดในระเบียบจัดซื้อจัดจ้างระบบออโตเมชั่น หรือระบบหุ่นยนต์แล้ว แต่ยังไม่เป็นรูปธรรมจึงอยากให้ภาครัฐทำให้เกิดขึ้น เพื่อให้มีความต้องการใช้ นักลงทุนจะได้เข้ามาลงทุนมากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหุ่นยนต์จากต่างประเทศเข้าขอสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เข้ามาลงทุนระบบหุ่นยนต์ในประเทศไทยแล้ว เช่น บริษัท นาชิ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) ผู้ผลิตหุ่นยนต์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการขอบีโอไออีกแห่งหนึ่งคือบริษัท แองก้า ผู้ผลิตหุ่นยนต์จากออสเตรเลีย มูลค่าการลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท
นายสมหวัง บุญรักษ์เจริญ ผู้อำนวยการสถาบันไทย-เยอรมัน กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับเอสเอ็มอีไทย โดยนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในสถานประกอบการเพื่อลดต้นทุน จำนวน 800 ราย ภายในปีหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี