บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวบริการใหม่ BMW ConnectedDrive บริการและแอพพลิเคชั่นเพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด ระหว่างผู้ขับยานยนต์และโลกภายนอก สำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance โดยความร่วมมือกับไมโครซอฟท์
มร.คริสเตียน วิดมานน์ ประธานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่าในปี 2561 นี้ เป็นการครบรอบปีที่ 20ของ BMW ConnectedDrive โดยเรายังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไป ในฐานะผู้บุกเบิกการให้บริการดิจิทัลล้ำยุคแห่งโลกยนตรกรรม การเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับ BMW ConnectedDrive ในครั้งนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยในประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์NUMBER ONE>NEXT ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป
“เราได้แนะนำเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม Open Mobility Cloudของบีเอ็มดับเบิลยู ร่วมกับระบบคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ ที่ช่วยให้ BMW ConnectedDrive สามารถปลดล็อกทุกขีดจำกัดของเทคโนโลยีล้ำยุค และมอบประสบการณ์เหนือระดับจากมิติการเชื่อมต่อแบบครบวงจร เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียมอย่างเต็มประสิทธิภาพ”
ด้วยบริการ BMW ConnectedDrive สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู iPerformanceผู้ใช้งานสามารถควบคุมระบบต่างๆผ่านแอพพลิเคชั่น BMW Connectedบน iPhone อาทิ การแสดงสถานะรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด, การควบคุมการชาร์จพลังงานไฟฟ้า และระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสารจากระยะไกล,ระบบนำทางและการประมวลและแสดงผลข้อมูลการขับขี่ เป็นต้น
ดร.อเล็กซานเดอร์ คอเทช หัวหน้าฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์บีเอ็มดับเบิลยู iกล่าวว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นที่จะตอบรับความต้องการของผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพและฉับไวด้วยการสร้างสายการประกอบรถยนต์ที่มีความยืดหยุ่นที่สุด โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฟฟ้า ระบบปลั๊กอินไฮบริด และเครื่องยนต์สันดาป จะใช้สายการประกอบร่วมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ว่าบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จะสามารถรองรับความต้องการในเรื่องของรุ่นรถยนต์และระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างของผู้ขับขี่ได้ทุกที่ทุกเวลา
“ภายในปี พ.ศ.2568 บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance จะมีรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 25 รุ่น ประกอบไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้า 12 รุ่น ขณะที่แบรนด์และสายผลิตภัณฑ์อื่นๆ ภายใต้ความดูแลของบีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ก็ยังมีเป้าหมายที่จะพัฒนานวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จต่อไป”
นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป็นที่คาดการณ์กันว่าในปี พ.ศ. 2563 รถยนต์ใหม่ในตลาดโลกกว่า 90% จะมาพร้อมกับคุณสมบัติการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หรือโลกภายนอก ซึ่งทั้ง BMW ConnectedDrive และแพลตฟอร์ม Open Mobility Cloud ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ปูทางไปสู่ประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต
“ความร่วมมือของเรากับบีเอ็มดับเบิลยู ถือเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของโลกยุคใหม่ ที่เปี่ยมด้วยศักยภาพอันเหนือชั้นทั้งในระบบคลาวด์ ซึ่งสามารถขับเคลื่อนเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยความสามารถอันน่าทึ่งในการประมวลผลข้อมูล และในอุปกรณ์ปลายทาง ที่นำนวัตกรรมอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Internetof Things (IoT) มาเสริมประสิทธิภาพและความคล่องตัวในทุกขณะของชีวิต”
ทั้งนี้ ระบบ BMW ConnectedDrive ในรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู iPerformance จะมาพร้อมกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ตั้งแต่เดือนมิถุนายนพ.ศ.2561 เป็นต้นไป โดยรุ่นที่รองรับประกอบด้วย บีเอ็มดับเบิลยู 330e บีเอ็มดับเบิลยู 530e และบีเอ็มดับเบิลยู740Le
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี