นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหินว่ากำลังเร่งดำเนินการให้เร็วโดยจะพยายามจัดทำร่างเอกสารประกวดราคาให้แล้วเสร็จ ส่วนจะขยายไปยังชุมพรได้หรือไม่นั้น ตามนโยบายทางการรถไฟฯจะพิจารณาที่ความคุ้มค่าจึงต้องรอดูผลการศึกษาก่อน
ส่วนโครงการเดินรถไฟด้วยระบบไฟฟ้าเส้นทางขอนแก่น-แหลมฉบังที่เป็นโครงการนำร่องนั้น ขณะนี้โครงการเดินหน้าไปได้มากแล้วและจะจัดทำกรอบระยะเวลาการดำเนินการว่าจะเสนอแผนอย่างไรบ้างในแต่ละเดือน โดยคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) จะเป็นผู้กำกับการดำเนินการตามแผนอีกที ส่วนการออกแบบแล้วเสร็จและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการการรถไฟฯ แล้ว โดยจะเน้นการขนส่งสินค้าเป็นหลักที่จะขนส่งจากภาคอีสานเชื่อมต่อกับเวียดนาม กัมพูชา และลาว เป็นต้น ส่วนการลงทุนจะเป็นรูปแบบเอกชนร่วมลงทุน (PPP)
สำหรับการทบทวนโครงสร้างอัตรากำลังนั้นคณะกรรมการการรถไฟฯได้อนุมัติในหลักการจำนวน 19,241 อัตรา ซึ่งต้องพิจารณาอีกว่าสาขาไหนที่เหมาะสม ปัจจุบันหลักๆ จะมีด้านฝ่ายการเดินรถและฝ่ายซ่อมบำรุง ขณะที่ความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ได้เร่งรัดในส่วนต่อขยายที่จะไปเชื่อมต่อระหว่างสถานีรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หากเชื่อมต่อเข้าไปถึงจะได้ผู้โดยสารเพิ่มอีกมาก โดยจะเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เพื่อพิจารณาอนุมัติ
ด้านความคืบหน้าการพัฒนาพื้นที่ย่านพหลโยธินจะนำพื้นที่โซน A มาดำเนินการพัฒนาเป็น SMART City ซึ่งเป็นการนำร่องพัฒนาโครงการร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงจะหารือร่วมกับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ด้วย ส่วนการจัดตั้งบริษัทลูกบริหารทรัพย์สินขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี