17 ก.ค. 61นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) กล่าวว่า ขณะนี้แผนลงทุนสนามบินแห่งที่ 2 ใน จ.เชียงใหม่ และภูเก็ต เพื่อแก้ปัญหาสนามบินแออัดได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว คาดว่า จะเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในปลายปีนี้ เพื่อนำผลการศึกษามาถอดแบบราคาและร่างเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) เพื่อเปิดประมูลโครงการต่อไปในปี 2562
นายนิตินัย กล่าวว่า สำหรับวงเงินการลงทุนก่อสร้าง ไม่รวมค่าซื้อที่ดินนั้น แบ่งเป็น สนามบินเชียงใหม่แห่งที่ 2 วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท บริเวณ อ.บ้านธิ พื้นที่ 7,000 ไร่ ขณะที่สนามบินภูเก็ตแห่งที่ 2 วงเงิน 7.5 หมื่นล้านบาทนั้น จะอยู่ใน จ.พังงา พื้นที่ 7,000 ไร่ เช่นกัน การออกแบบรายละเอียดสนามบินแต่ละโครงการนั้นเบื้องต้นจะมีการก่อสร้างอาคาร ผู้โดยสารภายในประเทศ 1 หลัง อาคารจอดรถรวมถึงอาคารสำนักงาน การสร้างรันเวย์เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดกลางเพื่อให้สอดคล้องกับประเภทเครื่องบินภายในประเทศ
“ทอท.ตั้งเป้า สนามบินใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้จะเปิด ขึ้นมาเพื่อรองรับเที่ยวบินภายในประเทศ (Domestic Flight) ในช่วงแรก เพื่อแก้ไขปัญหาความแออัดภายในสนามบินเชียงใหม่ และภูเก็ตในปัจจุบันที่มีปริมาณผู้โดยสารสูงเกินกว่าขีดความสามารถการรองรับ สนามบินเดิมทั้ง 2 แห่งยังมีพื้นที่น้อยมากเพียงไม่กี่ ร้อยไร่ต่อแห่ง ดังนั้นจะกำหนดให้ สนามบินเดิมเปิดทำการบินเพียงแค่เที่ยวบินระหว่างประเทศ (International Flight) ซึ่งจะยังไม่มีการลงทุนติดตั้งเครื่องสแกนร่างกายและเครื่องตรวจสอบวัตถุอันตรายตามมาตรฐานของยุโรปและสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (เอฟเอเอ) ในช่วงแรก โดยเตรียมพื้นที่ในอาคารเผื่อไว้ในอนาคตหากความต้องการ ใช้ของเที่ยวบินต่างชาติในสนามบินหลักสูงขึ้นจนรับไม่ไหวเพื่อเป็นการเตรียมการไว้ไม่ให้เกิดปัญหาแออัด” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฯ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี