นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทยหรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง ทอท.มีแผนโครงการลงทุนตามแผนแม่บทสนามบินตามนโยบายของรัฐบาลได้แก่ โครงการพัฒนาสุวรรณภูมิระยะที่ 2,3 และ 4 ใช้เงินลงทุนกว่าหลายหมื่นล้านบาท โครงการก่อสร้างสนามบินเชียงใหม่และภูเก็ตแห่งที่ 2 ที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอคณะกรรมการ ทอท.เพื่อของบประมาณลงทุนประมาณ 125,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการลงทุนใน 4 สนามบินเมืองรองที่ขอรับโอนย้ายมาจากกรมท่าอากาศยานวงเงินลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นสนามบินอุดรธานี 1,500 ล้านบาท และสนามบินสกลนคร สนามบินชุมพร และสนามบินตาก ใช้เงินลงทุนรวมกันอีก 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้จากการที่ดำเนินการเร่งลงทุนพัฒนาสนาบินเพื่อรองรับปริมาณการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการนั้นส่งผลให้กระแสเงินสดที่มีอยู่ขณะนี้ไม่เพียงพอต่อมูลค่าการลงทุน และในช่วง 5 ปีนับจากนี้จะต้องมีการลงทุนพัฒนาสนามบินโดยใช้งบประมาณ 270,000 ล้านบาท เบื้องต้น ทอท.คาดว่าจะขาดสภาพคล่องรวมประมาณ 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2564 รวมประมาณ 40,000 ล้านบาท และปี 2565 ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยอาจจะใช้วิธีการกู้เงินเพื่อเข้ามารองรับการขาดสภาพคล่องดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการหารืออีกครั้งว่าจะใช้แนวทางดำเนินการอย่างไรต่อไป
ปัจจุบันทอท.มีกระแสเงินสดประมาณ 65,000 ล้านบาท และเฉลี่ยแต่ละปีจะมีเงินสดเข้ามาปีละ 30,000 ล้านบาท โดยในช่วงระหว่างปี 2561-2565 ทอท.จะมีกระแสเงินสดทั้งหมดประมาณ 220,000 ล้านบาท จึงส่งผลให้ขาดสภาพคล่องตามจำนวนดังกล่าว
ด้านข้อมูลจากแหล่งข่าว ทอท.ระบุว่าคาดการณ์ว่าในช่วงกลางปี 2563 ความแออัดภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้นจะหมดไปเมื่อมีการเปิดใช้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (อาคารแซทเทิลไลท์) ซึ่งจะสามารถลดปริมาณความแออัดภายในอาคารผู้โดยสารหลักลงถึง 50%
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี