ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังตลาดกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังตลาดยังคงกังวลกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- ความเป็นไปได้ที่จีนจะบริโภคน้ำมันลดลงส่งผลกดดันต่อราคาน้ำมัน หลังบริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีนอย่าง Sinopec ปรับลดการซื้อน้ำมันดิบจากสหรัฐฯ อันเป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
- ซาอุดิอาระเบีย รัสเซีย คูเวต และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่างเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อช่วยชดเชยอุปทานที่คาดว่าจะหายไปจากอิหร่านเมื่อการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบอิหร่านโดยสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับใช้ในช่วงปลายปีนี้
+ การหยุดการส่งออกน้ำมันดิบทั้งหมดของอิหร่านมีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อย เนื่องจากผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของอิหร่านอย่างจีนปฏิเสธที่จะทำตามคำขอของสหรัฐฯ ด้วยเรื่องการระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน
+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 ส.ค. 61 ปรับตัวลดลงราว 2 แท่น มาอยู่ที่ 859 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ และยุโรปที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำที่มีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงถูกกดดันจากปริมาณการส่งออกจากจีนและอินเดียที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 70-75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
§ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นหลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Syncrude ในแคนาดา กำลังการผลิต 360,000 บาร์เรลต่อวัน มีแนวโน้มกลับมาผลิตได้ตามปกติในเดือน ส.ค.
§ การร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้ปรับลดลงกว่าร้อยละ 5 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 111 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังทั้งสองกลุ่มผู้ผลิตตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมโอเปกที่ผ่านมา
§ ปริมาณการผลิตและส่งออกของลิเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga กลับมาดำเนินการตามปกติ นอกจากนี้ ท่าเรือ Ras Lanuf และ Es Sider สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้แล้วด้วย แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงถังเก็บน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara ยังคงหายไปกว่า 160,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเกิดเหตุลักพาตัวคนงานโดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี