ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสหรัฐฯ เริ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ เริ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน เช่น การห้ามสกุลเงิน Rial ของอิหร่านอยู่ในบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ รวมถึงการซื้อขายทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2561 ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบ หากสหรัฐฯ เริ่มมาตรฐการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในวันที่ 4 พฤศจิกายน นี้
+ ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงหนุนจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียในเดือนกรกฎาคม 2561 ที่ปรับตัวลดลงราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
+ นักวิเคราะห์คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2561 จะปรับตัวลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งปรับลดลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ปรับลดคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ในปี 2561 จาก 10.79 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 10.68 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังอัตราการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Shale oil เริ่มปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัว เนื่องจากโรงกลั่นในสิงคโปร์มีปัญหาด้านการผลิต อย่างไรก็ดี ตลาดคาดอุปทานจะกลับมาอยู่ในระดับเดิมเร็วๆ นี้
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัว เนื่องจากโรงกลั่นในสิงคโปร์มีปัญหาด้านการผลิตเช่นกัน อย่างไรก็ดี ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากนโยบายการใช้น้ำมันไบโอดีเซลในอินโดนีเซียที่อาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดีเซลปรับลดลง
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 70-75 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
§ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการผลิตน้ำมันดิบทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ คาดจะปรับเพิ่มขึ้นหลังแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Syncrude ในแคนาดา กำลังการผลิต 360,000 บาร์เรลต่อวัน มีแนวโน้มกลับมาผลิตได้ตามปกติในเดือน ส.ค.
§ การร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกได้ปรับลดลงกว่าร้อยละ 5 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 111 ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลังทั้งสองกลุ่มผู้ผลิตตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมโอเปกที่ผ่านมา
§ ปริมาณการผลิตและส่งออกของลิเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น หลังท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบ Zueitina และ Hariga กลับมาดำเนินการตามปกติ นอกจากนี้ ท่าเรือ Ras Lanuf และ Es Sider สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้แล้วด้วย แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงถังเก็บน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่ง Sharara ยังคงหายไปกว่า 160,000 บาร์เรลต่อวัน หลังเกิดเหตุลักพาตัวคนงานโดยกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี