บินไทยอ่วม! โลว์ซีซั่น น้ำมันแพงพุ่ง แข่งดุ ฉุดไตรมาส2ขาดทุน3พันล้าน
นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 การบินไทยและบริษัทย่อยมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 3,098 ล้านบาท ลดลง 40.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการบินไทยและบริษัทย่อยขาดทุนจากการดำเนินงาน (Operating Loss) 2,807 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 52.4% คิดเป็น 965 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้น้อยกว่ารายจ่ายที่เกิดขึ้น โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 47,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงกันของปีก่อน 2,057 ล้านบาท หรือ 4.6% แต่ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 50,046 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% หรือ 3,022 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุหลักเกิดจากค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น 1,873 ล้านบาท หรือ 15.3% จากราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 36.5% นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น 1,158 ล้านบาท หรือ 3.4% ได้แก่ ค่าซ่อมแซมและซ่อมบำรุงอากาศยาน ค่าเช่าเครื่องบินและค่าอะไหล่เพิ่มขึ้น รวมถึงรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์และเครื่องบินจำนวน 257 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 431 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการตีมูลค่าทางบัญชี
นอกจากนี้ ไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว การแข่งขันในอุตสาหกรรมการบินยังคงรุนแรง ประกอบกับราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การบินไทยและบริษัทฯ ย่อยขาดทุนจากการดำเนินงาน 2,807 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 52.4% คิดเป็น 965 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรก การบินไทยและบริษัทย่อยยังคงมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจการบิน (Operating profit) จำนวน 1,028 ล้านบาท ดีขึ้นจากปีก่อน 41.8% และมีผลขาดทุนสุทธิ 381 ล้านบาท ลดลง 82.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางอุษณีย์ กล่าวอีกว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจปี 61 ต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อน เพื่อให้ผลการดำเนินงานมีกำไรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้รับมอบเครื่องบินใหม่แบบแอร์บัส A350-900 เพิ่มอีก 1 ลำ สำหรับให้บริการในเส้นทางข้ามทวีปและเส้นทางภูมิภาค ทำให้มีจำนวนเครื่องบินที่ใช้ในการดำเนินงาน 105 ลำ มีปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 5.3% ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 1.6% อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 75.8% ต่ำกว่าปีก่อนซึ่งเฉลี่ยที่ 78.5% และมีจำนวนผู้โดยสารที่ทำการขนส่งรวมทั้งสิ้น 5.90 ล้านคน ใกล้เคียงกับปีก่อน
นางอุษณีย์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 30 มิ.ย.61 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม 281,956 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันที่ 31 ธ.ค.60 จำนวน 1,181 ล้านบาท คิดเป็น 0.4% หนี้สินรวม 250,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธ.ค. 60 จำนวน 1,873 ล้านบาท คิดเป็น 0.8% และส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 31,321 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธ.ค.60 จำนวน 692 ล้านบาท คิดเป็น 2.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลขาดทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี