นายวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ รองประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า กลุ่มพันธมิตรเพื่อการปฏิรูปการค้าน้ำตาลโลก หรือ Global Sugar Alliance(GSA) ประกอบด้วยประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายรายใหญ่ของโลก ได้แก่ บราซิล ออสเตรเลีย แคนาดา โคลอมเบีย กัวเตมาลาและไทยมีความกังวลต่อสถานการณ์การดำเนินมาตรการอุดหนุนการผลิตและการส่งออกน้ำตาลที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลก
“อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยเห็นควรให้การสนับสนุนและร่วมมือกับ GSA หากจะดำเนินการฟ้องร้อง WTO (องค์การการค้าโลก) เพื่อขอให้สหภาพยุโรปหรืออียู(EU),อินเดีย,ปากีสถาน ยกเลิกการอุดหนุนการผลิตและการส่งออกน้ำตาล ที่มีผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีความผันผวนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยทั้งระบบที่ใช้ราคาน้ำตาลตลาดโลกมาคำนวณเป็นราคาอ้อย ซึ่งหากราคาน้ำตาลโลกอยู่ในภาวะตกต่ำย่อมส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในที่สุด” นายวิบูลย์ กล่าว
ทั้งนี้ พบว่าอียูได้อุดหนุนเกษตรกรผู้เพาะปลูกบีท(พืชที่นำมาผลิตน้ำตาล) ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมา อียูเริ่มกลับมาส่งออกน้ำตาลอีกครั้ง โดยในช่วง 6 เดือนแรก ของปีนี้คาดว่า อียูจะส่งออกน้ำตาลส่วนเกินแล้วกว่า 2.6 ล้านตัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศผู้ผลิตและส่งออกอื่นๆ ที่ปฏิบัติตามกฎกติกาการค้าโลก
ขณะที่ประเทศปากีสถาน ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนการส่งออกน้ำตาลเพื่อลดอุปทานภายในประเทศในช่วงปีที่มีปริมาณผลผลิตเป็นจำนวนมาก โดยมีการอุดหนุนค่าขนในการส่งออกน้ำตาลให้แก่โรงงานสูงกว่าต้นทุนค่าขนส่งจริง อีกทั้ง ยังตั้งกำแพงภาษีนำเข้าน้ำตาลในอัตราสูง และกำหนดภาษีการขาย (Sales tax) สูงกว่าน้ำตาลที่ผลิตในประเทศเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมน้ำตาลในประเทศ เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่สูงกว่า
ส่วนประเทศอินเดียซึ่งมีปริมาณผลผลิตน้ำตาลในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 32 ล้านตัน และคาดว่าในปีการผลิตหน้า (ปี 2561/62) จะเพิ่มเป็น 35 ล้านตัน เป็นผลให้อินเดียกลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่รองจากประเทศบราซิล โดยรัฐบาลอินเดียมีการสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าอ้อยให้แก่ชาวไร่โดยตรง ซึ่งสูงกว่าที่ข้อตกลงทางการเกษตรของ WTO ที่กำหนดให้อุดหนุนได้ไม่เกิน 10% ของมูลค่าอ้อยรวมทั้งหมด จึงทำให้มีปริมาณน้ำตาลส่วนเกินที่ผลิตออกสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการอุดหนุนการผลิตและการส่งออกน้ำตาลในตลาดโลกได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำจากปริมาณผลผลิตน้ำตาลส่วนเกินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในปีการผลิต 2561/62 ปริมาณสต๊อกน้ำตาลโลกจะเพิ่มขึ้นถึง 103 ล้านตันจากปีก่อนอยู่ที่ 96.81 ล้านตัน ส่งผลให้สัดส่วนของปริมาณสต๊อกต่อการใช้น้ำตาลของโลกในปี 2561/62 เพิ่มเป็น 55% และจะกดดันราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดลงเหลือเพียง 9 เซนต์/ปอนด์ จากปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 11-13 เซนต์/ปอนด์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี