ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าจากวิกฤตทางการเงินในตุรกี
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนทยอยเข้าซื้อเงินสกุลดอลลาร์ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตค่าเงินตุรกี และผลกระทบที่อาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ โดยค่าเงินตุรกีดิ่งลงอย่างหนักตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาหลังสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นสองเท่า เนื่องจากการเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และตุรกีไม่ประสบผลสำเร็จ
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ประกาศตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 10 ส.ค.) ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 3.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลง
- เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง หลังตัวเลขการลงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ลดลงถึงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยตัวเลขการลงทุนในทรัพย์สินถาวรเติบโตลดลงอยู่ที่ร้อยละ 5.5 ในขณะที่ยอดขายปลีกในเดือน ก.ค. ก็ชะลอตัวลง โดยเติบโตร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่เติบโตร้อยละ 9.0 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจและอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอลง
กลุ่มโอเปกปรับลดประมาณการอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2562 ลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะเติบโตราว 1.43 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ราว 200,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะอุปทานล้นตลาด
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้จะได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอินโดนีเซีย แต่อุปทานจากเกาหลีและจีนยังคงอยู่ในระดับสูง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากแหล่งผลิตน้ำมันดิบ Syncrude ในแคนาดาคาดจะกลับมาดำเนินการผลิตได้เต็มกำลังภายในเดือน ส.ค. 61
การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบโอเปกและนอกโอเปกคาดจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังทั้งสองกลุ่มผู้ผลิตตัดสินใจปรับเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมโอเปกในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมากำลังการผลิตจากซาอุดิอาระเบีย คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปรับเพิ่มกำลังการผลิตรวมกันกว่า 170,000 บาร์เรลต่อวันจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่รัสเซีย การผลิตคาดจะเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 บาร์เรลต่อวัน
ปริมาณการผลิตและส่งออกของลิเบียมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้น หลังเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศเริ่มคลี่คลายลง หลังลิเบียประกาศยกเลิกเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) และกลับมาดำเนินการส่งออกน้ำมันดิบจากแหล่งผลิตน้ำมัน El Feel ซึ่งมีกำลังการผลิตกว่า 90,000 บาร์เรลต่อวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี