19 ส.ค.61 ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ได้จัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) โดยบริษัท แอดวานซ์ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ AWN ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส เดินทางมาถึงสำนักงาน กสทช.เมื่อเวลา 08.00 น.ต่อมาในเวลา 08.20 น.บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด หรือ DTN ในเครือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค
โดยหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น 1800 MHz กำหนดให้ประมูลคลื่นความถี่รวม 45 MHz แบ่งออกเป็น 9 ใบอนุญาตๆ ละ 5 MHz ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถประมูลได้สูงสุด 4 ใบอนุญาต ราคาเริ่มต้นประมูลอยู่ที่ 12,486 ล้านบาท เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 25 ล้านบาท และผู้เข้าร่วมการประมูลจะต้องวางหลักประกันการประมูล 2,500 ล้านบาท โดยการประมูลเริ่มเคาะราคารอบแรกเวลา 10.00 น.และสิ้นสุดการประมูลในเวลา 11.20 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค.61 ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมประมูล 2 ราย ประกอบด้วย AWN และ DTN เรียกว่าการแข่งขันไม่หวือหวาเนื่องจากวันประมูลเป็นวันอาทิตย์ และมีผู้เข้าร่วมสังเกตุการณ์และสื่อมวลชนราว 200 กว่าคน เหมือนการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา โดยราคาเคาะรอบแรก ราคาใบอนุญาต 12,486 ล้านบาท โดยมีการประมูลทั้งหมด 4 รอบ แต่ละรอบมีการเสนอราคา ครั้งละ 25 ล้านบาท โดยสิ้นสุดการเคาะราคาประมูลที่ระดับ 12,511 ล้านบาท รวม 2 ใบอนุญาตคิดเป็นเงินจำนวน 25,022 ล้านบาท (ไม่รวมภาษี) ใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 1.20 ชั่วโมง โดยจบที่เวลา 11.20 น.โดยราคาใบอนุญาตสูงกว่าราคาเริ่มต้น 0.2%
โดยเมื่อวันที่ 11 - 12 พ.ย.58 กสทช.ได้จัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวน 50 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่เป็นคลื่นความถี่ของคู่สัญญาระหว่าง บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้สิ้นสุดสัญญาสัมปทาน เมื่อวันที่ 15 กันยาย 2556 และผู้ที่ชนะการประมูลในครั้งนั้น บริษัท ทรูมูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะในใบอนุญาตราคา 39,792 ล้านบาท และ AWN ได้ใบอนุญาตราคา 40,986 ล้านบาท โดยราคาใบอนุญาตสูงกว่าราคาเริ่มต้น 157% โดยในครั้งนั้นราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15,912 ล้านบาท
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์การประมูลกำหนดให้ประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz รวม 45 เมกะเฮิรตซ์ แบ่งออกเป็น 9 ใบอนุญาต ใบละ 5 เมกะเฮิรตซ์ ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถประมูลได้สูงสุด 4 ใบอนุญาต หรือ 20 เมกะเฮิรตซ์เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเคาะครั้งแรกซึ่งเป็นราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 12,486 ล้านบาท และเคาะราคาจะเพิ่มขึ้นครั้งละ 25 ล้านบาท หากผู้เข้าร่วมประมูลไม่มีการเคาะราคาจะถูกยึดหลักประกันตามหลักเกณฑ์การประมูล
ทั้งนี้ ภายหลังการประมูลเสร็จสิ้น จะมีการประกาศผลการประมูลภายใน 7 วัน โดย กสทช.จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามให้แก่ผู้เข้าร่วมการประมูลภายหลังจากผู้เข้าร่วมการประมูลได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนรับใบอนุญาตอย่างครบถ้วน ถูกต้องภายใน 90 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล และกระบวนการชำระเงินประมูลในงวดที่ 1 จำนวน 50% งวดที่ 2 25% งวดที่ 3 25% กรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขก่อนรับใบอนุญาต จะทำการริบหลักประกัน 2,500 ล้านบาท และค่าปรับ 1,875 ล้านบาท ต่อหนึ่งชุดคลื่นความถี่
วันเดียวกันหลังจากสิ้นสุดการประมูล ได้จัดให้มีการประชุม กสทช.เพื่อประชุมผลการรับรองการประมูลร่วมกับ ผู้ชนะการประมูล เพื่อเลือกชุดคลื่นความถี่ โดยดีแทค จับฉลากได้เลือกคลื่นความถี่เป็นอันดับที่ 1 โดยเลือก DTN เลือกชุดความถี่ชุดที่ 2 ย่าน 1745 - 1750 MHz และ 1840 - 1845 MHz และ AWN เลือกชุดความถี่ชุดที่ 1 ย่าน 1740 - 1745 และ 1835 - 1840 MHz
นายฐากร กล่าวว่า ประเมินการประมูลในครั้งนี้เป็นผลที่น่าพอใจ เงินจำนวน 25,022 ล้านบาท เป็นเงินจำนวนไม่น้อย ส่วนชุดคลื่นความถี่ที่เหลือ 35 MHz จะนำมาปรับเงื่อนการประมูลใหม่เพื่อดึงดูดผู้เข้าประมูล เบื้องต้นจะปรับเรื่องการนำราคาตั้งต้นการประมูลคลื่น 1800 MHz ของปี 2558 มาเป็นราคาเริ่มต้นการประมูล หรือใช้ราคาเริ่มต้นการประมูลเดิม แต่ขยายระยะเวลาการชำระเงินออกไปเป็น 5-6 ปี พร้อมกันนี้สำนัก กสทช.เตรียมทำบทวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสีย ทั้ง 2 คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz
วันเดียวกันหลังจากสิ้นสุดการประมูล ได้จัดให้มีการประชุม กสทช.ร่วมกับผู้ชนะการประมูล เพื่อเลือกชุดคลื่นความถี่ โดย ดีแทค จับฉลาก ได้เลือกคลื่นความถี่เป็นอันดับที่ 1 โดยเลือก DTN เลือกชุดความถี่ชุดที่ 2 ย่าน 1745 - 1750 MHz และ 1840 - 1845 MHz และ AWN เลือกชุดความถี่ชุดที่ 1 ย่าน 1740 - 1745 และ 1835 - 1840 MHz
นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส เปิดเผยว่า ถือว่าการประมูลในครั้งนี้เป็นผลที่น่าพอใจ และเป็นไปตามที่ที่ปรึกษาเลือก AWN บริษัทในเครือเอไอเอส ซึ่งเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 1800 MHz และสามารถประมูลได้คลื่น 1800 MHz จำนวน 1 ใบอนุญาตจำนวน 5 MHz ด้วยมูลค่า 12,511 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯถือเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยีดิจิทัลไลฟ์ ที่ถือครองคลื่นความถี่ที่ได้รับจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) มากที่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม รวมกับการใช้โรมมิ่งกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้มีคลื่นในการให้บริการมากถึง 60 MHz โดยเฉพาะคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่มีรวมกันถึง 20 MHz ทำให้ลูกค้ากว่า 40 ล้านเลขหมายทั่วประเทศได้รับประสบการณ์การใช้งานเพิ่มมากขึ้นในเรื่องคุณภาพทั้งบริการผ่านเสียง และบริการดาต้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามมาตรฐานเทคโนโลยี 4G ที่สำคัญเป็นการยกระดับความแข็งแกร่งของโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมในประเทศไทย เพื่อก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0
"การประมูลครั้งนี้ ทำให้เอไอเอสมีคลื่นความถี่ 1800 MHz จำนวน 20 MHz ซึ่งถือเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยี 4G เพียงรายเดียวที่มีคลื่นความถี่ติดกันมากที่สุด ทำให้รองรับความเร็วของการใช้งานบริการดาต้าของลูกค้าผ่านโทรศัพท์มือถือสามารถรองรับในปริมาณที่มากขึ้นด้วยความเร็วที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำในตลาด รวมทั้งยังสามารถสร้างโอกาสและเตรียมความพร้อมในการรองรับคลื่นความถี่ 5G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"
อีกทั้งคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่บริษัทประมูลได้มานั้น มีความเหมาะสมและความคุ้มค่าสูงสุดสำหรับการขยายความจุโครงข่ายเพื่อรองรับการเติบโตของ 4G โดยเป็นการเพิ่มช่องสัญญาณจากเดิม และใช้ได้กับอุปกรณ์โครงข่าย 4G บนคลื่น 1800 MHz ที่มีอยู่ ซึ่งช่วยให้บริษัทประหยัดงบประมาณการลงทุนในระยะยาว
นายลาร์ส นอร์ลิ่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า "คลื่น 1800 MHz ที่ได้จากการประมูลจะนำมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของลูกค้า 2G ที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก และรวมถึงการนำคลื่นความถี่ดังกล่าวมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายบริการ4G ตอบสนองความต้องการการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่เติบโตอย่างรวดเร็ว"
"ดีแทคต้องขอขอบคุณรัฐบาล และ กสทช. สำหรับการจัดประมูลคลื่นความถี่ที่ประสบความสำเร็จโดยคำนึงถึงข้อคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ดีแทคมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า กสทช.จะอนุมัติแผนมาตรการคุ้มครองลูกค้าใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ต้องแสดงความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างผู้ให้บริการ และ กสทช.เพื่อไม่ให้ซิมดับและมีผลกระทบต่อการใช้งานของลูกค้า หลังจากสิ้นสุดสัมปทาน" นายลาร์ส กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี