นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริให้ความสำคัญกับการสร้างชุมชนที่พักอาศัยอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางที่ชาญฉลาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน (Green Sustainable Living) ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายคือการนำพลังงานทดแทนมาใช้
โดยล่าสุดแสนสิริได้จับมือกับบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เพื่อนำระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ไปติดตั้งในโครงการของแสนสิริที่กำลังก่อสร้างอยู่กว่า 20 โครงการ ภายในปี 2561 ในการวางระบบพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์แบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer-to-Peer) โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
ทั้งนี้จะนำร่องระบบแลกเปลี่ยนพลังงานที่โครงการ “ทาวน์สุขุมวิท 77” หรือ “T77” จะเริ่มมีการซื้อขายไฟฟ้าเป็นทางการเดือนกันยายน 2561 โดยระบบพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 635 กิโลวัตต์ แบ่งสัดส่วนการใช้เป็น 54 กิโลวัตต์ สำหรับ “ฮาบิโตะมอลล์” ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้มอลล์, 413 กิโลวัตต์ สำหรับโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ และ 168 กิโลวัตต์ สำหรับ “พาร์ค คอร์ท คอนโดมิเนียม” รวมถึงโรงพยาบาลฟัน ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการแลกเปลี่ยนพลังงาน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบนี้ในโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปของแสนสิริ ด้วยกำลังการผลิตติดตั้ง 150 กิโลวัตต์
“คาดว่าจะลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าการปลูกป่าถึง 400 ไร่ ด้วยกำลังการผลิตพลังงานสะอาด 20% ของปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ทั้งหมดใน T77 และคาดว่าไฟฟ้าสะอาดทุกหน่วยที่ผลิตได้จะช่วยประหยัดค่าไฟต่อหน่วยให้ลูกบ้านแสนสิริได้ถึง 15% โดยภายในปี 2564 แสนสิริมีแผนที่ติดตั้งในโครงการใหม่ๆ กว่า 31 โครงการ และมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2 เมกะวัตต์” นายอุทัย กล่าว
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บีซีพีจีนำร่องแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าทางอินเตอร์เนตที่โครงการ T77 ร่วมกับแสนสิริ และพาวเวอร์ เล็ดเจอร์ ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนพลังงานทดแทนระดับโลกจากออสเตรเลีย ในโครงการ T77 มีผู้ร่วมโครงการ 4 อาคาร โดยมีระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่ภายในโครงการ และมีการเชื่อมโยงกับสายส่งของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
ในเบื้องต้นไฟฟ้าที่ผลิตได้จากโซลาร์รูฟท็อปในแต่ละอาคาร จะนำไปใช้ภายในอาคาร ในกรณีที่ไฟฟ้าที่ผลิตได้มีมากกว่าความต้องการที่ใช้เอง ระบบจะนำส่วนเกินขายให้ผู้ใช้รายอื่นด้วยระบบ P2P หากยังมีเหลืออีก ก็จะขายให้ระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) เพื่อเก็บไว้ขายในเวลาอื่น และหากระบบกักเก็บเต็ม ไฟฟ้าจะถูกส่งขายเข้าระบบของ กฟน. ส่วนในกรณีที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงกว่าที่ผลิตได้ ระบบจะทำการซื้อจากระบบ P2P จากระบบกักเก็บพลังงาน และจาก กฟน. ตามลำดับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี