“ฐากร” เผย “เอไอเอส-ดีแทค-ทรูมูฟ” อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านระบบการให้บริการไปสู่ระบบ 3G ส่งผลให้ระบบ 2G เดิมเกิดปัญหา พร้อมสั่งตรวจสอบคุณภาพบริการแล้ว ย้ำทั้ง 3 ค่ายจะละเลยบริการระบบเดิมไม่ได้

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
(กสทช.) กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 ราย ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส, บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค และ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (จากระบบ 2G) ไปสู่การให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิตรซ์ (GHz)

ขณะที่ กสทช.พบว่ามีประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวนมากได้ร้องเรียนว่า ในช่วงเปลี่ยนผ่านการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปสู่การให้บริการคลื่น 2.1 GHz การให้บริการมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการ เช่น โทร.ติดยาก เครือข่ายไม่ว่าง สัญญาณไม่มีสายหลุดบ่อยครั้ง ทำให้ผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อนไม่ได้รับความสะดวกตามมาตรฐานการให้บริการ ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว ขอเรียนว่า การให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบสัมปทานเดิม (2G) ของ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ผู้ให้บริการทั้งสามรายจะเพิกเฉย หรือละเลยการให้บริการ เพื่อรอการเปลี่ยนผ่านระบบการให้บริการไปสู่การใช้คลื่น 2.1 GHz ไม่ได้จะต้องดำเนินการเพื่อให้การบริการเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด

พร้อมย้ำว่าทาง สำนักงาน กสทช. ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้บริการประชาชนในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบวัดคุณภาพการให้บริการอย่างสม่ำเสมอมา
โดยตลอด และเพื่อให้การกำกับดูแลการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบสัมปทานเดิมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นายฐากร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการออกตรวจวัดคุณภาพการให้บริการในเขตกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ และในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัด โดยให้ดำเนินการตรวจวัดคุณภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง หากพบว่ามีการให้บริการไม่เป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการที่กำหนดจะได้ดำเนินการกับผู้ให้บริการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้สำนักงาน กสทช. แจ้งกำชับให้ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานด้วยแล้ว

ส่วนที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ทีโอทีได้ฉลองครบรอบ 59 ปี การก่อตั้งองค์กร โดยบริษัทย้ำว่า จะสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมที่เข้มแข็งและครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของโลก

นายยงยุทธ วัฒนสินธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีโอที จะวางโครงข่าย 3G เฟส 1 ครบจำนวน 5,320 สถานีฐานในเดือนมีนาคม 2556 นี้ ส่วนการให้บริการ3G ในเฟส 0 หรือในกรุงเทพฯ และปริมณฑลพบว่ามีลูกค้าแล้ว 220,000 ราย

นอกจากนี้ ทีโอที เริ่มทดสอบระบบ 4G ด้วยคลื่นความถี่ 1900 เมกะเฮิรตซ์แล้วโดยเริ่มทดสอบเทคโนโลยี แล้ว 100 สถานีฐาน ซึ่งเป็นการให้บริการที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์

“เรายังไม่เปิด 4G แบบคอมเมอร์เชียลเพราะอุปกรณ์ยังมีรองรับไม่แพร่หลาย แต่ในระหว่างที่มีการทดสอบจะดูผลตอบรับว่าหากทำในเชิงพาณิชย์จะแบ่งช่วงคลื่นความถี่ และการจัดโซนนิ่งการให้บริการอย่างไรบ้าง ซึ่งหากมีความชัดเจน ทีโอทีจะนำไปปรับปรุงเพราะใช้กับสถานีฐาน 3G เฟส 2 ที่จะเกิดขึ้น”

พร้อมกันนี้ ทีโอทีได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ในการใช้โครงข่ายร่วม (โรมมิ่ง) สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของทีโอที 3G และบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในชื่อ “มาย” ของ กสท ในเบื้องต้น จะมีการทำสัญญากันปีต่อปี มีความจุ(คาปาซิตี้)สามารถโรมมิ่งกันทั้งขาไป และกลับไป 4 แสนเลขหมาย คิดค่าเชื่อมโยงโครงข่าย(อินเตอร์คอนเน็คชั่น ชาร์จ) หรือไอซี ที่นาทีละ0.50 บาท