ธอส.พร้อมสนับสนุนโครงการบ้านดีมีดาวน์ รัฐช่วยลดภาระผ่อนดาวน์ 50,000 บาท ให้ประชาชน 1 แสนรายแรก
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สนับสนุนมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ตามนโยบายของนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50000 บาทต่อราย ให้แก่ประชาชน 1 แสนรายแรกที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการ รวมถึงได้รับอนุมัตืสินเชื่อสำหรับการซื้อที่อยูอาศัยใหม่กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และจดจำนองระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50000 บาทต่อราย ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2562 พร้อมสร้างแรงส่งให้เศรษฐกิจในปี 2563 ด้านขยายตัวอย่างมีศักยภาพนั้น ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของภาครัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” พร้อมให้การสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ซึ่งประชาชน 1 แสนรายแรกที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการ รวมไปถึงการอนุมัติสินเชื่อสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ห้องชุด และอาคารพาณิชย์ โดยได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดทะเบียนนิติกรรมจำนองระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563
ซึ่งสมารถปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อเข้าร่วมโครงการได้ดังนี้ 1.)ผู้กู้หลัก ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.บ้านดีมีดาวน์.com ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม 2562 – 31 มีนาคม 2563 โดยกรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน 2.)หากระบบตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ลงทะเบียนมีคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนด ประกอบด้วย มีตัวตนตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง และอยู่ในระบบฐานภาษีโดยมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี ผู้ลงทะเบียนจะได้รับ SMS ครั้งที่ 1 สำหรับนำไปแสดงกับ ธอส. หรือสถาบันการเงินที่ประสงค์จะยื่นกู้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 3.)เมื่อได้รับอนุมัติสินเชื่อและจดทะเบียนนิติกรรมจำนองภายในวันที่ 31 มีนาคม 2563 ทาง ธอส. หรือสถาบันการเงินที่ลูกค้ายื่นกู้จะส่งข้อมูลให้ระบบตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลว่า เป็นการกู้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ คือการซื้อที่อยู่อาศัยใหม่กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หรือไม่ 4.)หากระบบตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการกู้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ผู้ลงทะเบียนจะได้รับ SMS ครั้งที่ 2 เพื่อแจ้งยืนยันสิทธิ์การผ่อนดาวน์ (Cash Back) จำนวน 50000 บาทต่อราย ทั้งนี้เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติถูกต้องและกู้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการจำนวน 1 แสนรายแรกเท่านั้น และ 5.)ระบบจะส่งข้อมูลผู้ได้รับสิทธ์ให้กับ ธอส. เพื่อทำการโอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ตามบัญชีที่ผูกกับหมายเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้หลักตามที่แจ้งไว้ในขั้นตอนการลงทะเบียน
“มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างแน่นอน เพราะการซื้อบ้านจะมีผลให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจผ่านทั้งการจ้างงาน การซื้อวัสดุก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ตกแต่งที่อยู่อาศัยต่างๆ จึงทำให้เกิด Multiplier Effect หรือผลทวีคูณต่อระบบเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ถึง 3 เท่า” นายฉัตรชัย กล่าว
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจมาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” หรือสนใจยื่นกู้กับธนาคาร สามารถสอบถามรายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี