วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์ทั้ง 3 ราย อันประกอบด้วย บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ค จำกัด บริษัทดีแทค เนทเวิร์ค จำกัด และ บริษัทเรียลฟิวเจอร์ จำกัด ได้ส่งสัญญาณทางการตลาดมาแล้วว่า พร้อมจะเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ย่าน 2.1 MHz ไม่เกินกลางเดือนพฤษภาคม 2556 นี้
ล่าสุด บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ dtac ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัทดีแทค เนทเวิร์ค จำกัด แถลงข่าว “The new era of dtac” ในวันพฤหัสบดีที่ 9 พฤษภาคม 2556 พร้อมประกาศการเปิดให้บริการ 3G อย่างเป็นทางการแล้ว
ขณะที่ บริษัทแอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ AIS บริษัทแม่ของ บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ค จำกัดที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าได้พัฒนาเครือข่าย “AIS 3G ใหม่” เพื่อให้บริการ 20 จังหวัดก่อนในเดือนหน้า แต่ภายในสิ้นปีถึงจะเปิดครบ 77 จังหวัด
ขณะที่ทางฝั่ง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก็มั่นใจเช่นกันว่า ขั้นตอนต่างๆ จะดำเนินการทันในกลางเดือนพฤษภาคม 2556 ซึ่ง กสทช. จะเข้าไปกำกับดูแลผู้บริโภคไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบแล้ว ยังกำชับให้ทั้ง 3 ค่ายมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ กสทช.ด้านกฎหมาย ย้ำว่า ตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2.1 GHz นั้น ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์มือถือ 3G ทั้ง 3 ค่าย ก่อนจะเปิดให้บริการ 3G จะต้องส่งแผนความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility-CSR) มาให้บอร์ด คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) พิจารณา
“แผนนี้จะต้องครอบคลุมถึงเรื่องการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้แก่ซากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือที่ใช้แล้ว ประกอบไปด้วยสารเคมีที่มีพิษตกค้างยาวนานและสะสมในสิ่งมีชีวิต รวมทั้งยังมีโลหะหนักต่างๆ เช่น ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท โครเมียม สารหน่วงการติดไฟ และสารเคมีอันตรายอื่นๆ ซึ่งสารเหล่านี้
ถือว่าเป็นสารอันตราย ถ้าหากไม่มีระบบการจัดการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการก็จะมีการปนเปื้อนลงสู่ดิน แหล่งน้ำ
น้ำใต้ดินและในบางกรณีแพร่กระจายขึ้นสู่อากาศ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์โดยตรง”
โดยสารเหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ และเกิดการสะสมในระดับที่มากเกินควรก็จะก่อให้เกิดภาวะโรคภัยที่เป็นอันตรายรุนแรงโดยการไปทำลายระบบต่างๆ ในร่างกายของมนุษย์ และอาจพัฒนาไปสู่การเป็นโรคมะเร็งในที่สุด
ทั้งนี้ในแผน CSR ยังจะต้องคำนึงถึงสุขภาพของผู้ใช้บริการ รวมไปถึงการจัดทำแผนความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้ความสำคัญในการคุ้มครองสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้บริการกรณีมีการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี โดยต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้เพื่อให้เทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีเดิมสามารถใช้งานร่วมกันได้
ขณะนี้ค่ายมือถือทั้ง 3 ค่ายส่งแผนดังกล่าวของแต่ละค่ายมาให้บอร์ด กทค.แล้วซึ่งจากการตรวจดู พบว่า แผนดังกล่าวมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน โดยบางบริษัทได้เสนอแผนที่ละเอียดชัดเจนและมีมาตรการที่เห็นเป็นรูปธรรม เช่น แผนการจัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการวางมาตรการลงลึกถึงขั้นการตั้งจุดรับหรือทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่ต่างๆ และกำหนดวิธีการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ อย่างชัดเจน
“ขอความร่วมมือจากค่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย ที่ได้รับใบอนุญาตให้บริการ 3G ให้ความสำคัญต่อการนำเสนอแผนความรับผิดชอบต่อสังคม และแผนคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความชัดเจนและสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างจริงจัง เพราะถ้าหากไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากอาจถูกมองว่า ขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและมิได้คำนึงถึงผู้บริโภคที่ใช้บริการ 3G
“ผมเชื่อว่า หากค่ายมือถือที่ให้บริการ 3G ในเมืองไทยดำเนินธุรกิจเพื่อตอบแทนสังคมและคุ้มครองผู้บริโภค ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียของบริษัททุกกลุ่ม จะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการก็จะง่ายขึ้น ส่งผลในการสร้างความสุขแก่สังคมไทยในภาพรวม ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ หากทุกค่ายมือถือให้ความสำคัญในการจัดทำและบังคับใช้แผนทั้งสองอย่างจริงจัง” ดร.สุทธิพล กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี