นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของเงินบาท โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่แข็งค่าขึ้นมาก(แตะราว 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ)จากความคืบหน้าของวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า ธปท. ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ธปท. เตรียมเปิดเผยสถานการณ์และความคืบหน้าของมาตรการดูแลค่าบาทที่ได้ออกมาก่อนหน้านี้ และเตรียมเปิดเผยมาตรการเพิ่มซึ่งจะออกมาเป็นแพ็กเกจในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของอัตราแลกเปลี่ยนไทย
ส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือนตุลาคม 2563 หดตัวในอัตราสูงขึ้นเมื่อเทียบกับการหดตัวในเดือนกันยายน 2563 จากปัจจัยชั่วคราวที่หมดลง และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่สูงในปีก่อน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัวจากที่ขยายตัวได้เล็กน้อยในเดือนก่อน หลังปัจจัยชั่วคราววันหยุดยาวพิเศษหมดลง มูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำยังเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน แต่หดตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน เช่นเดียวกับเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งจากผลของฐานสูงในปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาหดตัวจากการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำที่ล่าช้า ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังหดตัวสูงจากผลของมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องแต่ยังเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงเล็กน้อยตามดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลเพิ่มขึ้น โดยละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนกลับมาหดตัวจากที่ขยายตัวได้เล็กน้อยในเดือนก่อน ตามการใช้จ่ายที่ปรับตัวลดลงในเกือบทุกหมวด เนื่องจากปัจจัยชั่วคราววันหยุดยาวพิเศษในเดือนก่อนหมดลง ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนกลับมาหดตัว และหมวดบริการหดตัวสูงขึ้น ประกอบกับมีผลของฐานสูงในปีก่อนจากผลของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ อย่างไรก็ดี การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว สอดคล้องกับปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อที่ทยอยปรับดีขึ้นทั้งการจ้างงาน รายได้ของครัวเรือนทั้งในและนอกภาคเกษตรกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประกอบกับได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐต่อเนื่อง
มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวร้อยละ 5.6 จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกหดตัวร้อยละ 5.0 โดยเป็นการหดตัวสูงขึ้นเล็กน้อยเทียบกับเดือนก่อนตามการส่งออกในบางหมวดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมัน สินค้าเกษตร และสินค้าเกษตรแปรรูปที่มีผลของฐานสูงในปีก่อน อย่างไรก็ดี การส่งออกบางหมวดสินค้ายังมีทิศทางปรับดีขึ้นต่อเนื่อง อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรและอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ อย่างไรก็ดี การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลงจากการผลิตหมวดยานยนต์และหมวดปิโตรเลียมเป็นสำคัญ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานที่ต่ำในปีก่อน
ส่วนมูลค่าการนำเข้าสินค้า หดตัวร้อยละ 12.1 จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการนำเข้าทองคำ มูลค่าการนำเข้าหดตัวร้อยละ 9.9 โดยเป็นการหดตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวดสินค้า ทั้งการนำเข้าเชื้อเพลิง สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าทุนสอดคล้องกับการใช้จ่ายภายในประเทศที่หดตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี