“กิตติรัตน์” ไฟลนก้น หลังการเบิกจ่ายงบน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท เอาจริงได้แค่หลักหมื่นล้าน ลุ้น “ปลอดประสพ”เสนอโครงการให้ครม.เห็นชอบก่อนสิ้นเดือนนี้มิเช่นนั้นจะต้องใช้เงินตามระบบงบประมาณปกติ พร้อมกังวลว่า จะเปิดช่องให้ฝ่ายค้านโจมตีได้ว่า “พ.ร.ก.น้ำ” ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนจริง
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงคลังกู้เงิน เพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท นั้น จะต้องทำการกู้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2556 อย่างไรก็ตามขณะนี้มีการกู้เงินไปได้เพียงประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และยังมีที่ทำสัญญากู้แล้วแต่ยังไม่ได้เบิกจ่ายออกไปอีก 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจะมีส่วนที่เหลือที่ยังไม่ได้มีการทำสัญญาอีก 3.1 แสนล้านบาท
ขณะที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กังวลประเด็นนี้ และยังคงรอ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลเรื่องการจัดการประมูลโครงการน้ำทั้งหมด เป็นผู้เสนอโครงการก่อสร้างให้ คณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบก่อนที่จะทำสัญญากับผู้รับเหมาในส่วนที่เหลือได้ โดยการสรรหาผู้รับเหมาดำเนินการก่อสร้างโครงการน้ำที่มีอยู่ทั้งหมด 9 โครงการ ที่ผ่านมา มีผู้การพิจารณาด้านคุณสมบัติแล้ว 5 ราย
“นายกิตติรัตน์ ต้องการให้แน่ใจว่าถ้ามีการกู้เงินมาแล้ว จะมีการดำเนินการโครงการดังกล่าวจริง ไม่ใช่กู้มาแล้วแต่ยังไม่ดำเนินโครงการ ซึ่งจะทำให้เป็นเป้าโจมตีของพรรคฝ่ายค้านได้ ว่าด้วยเรื่องการกู้เงิน พ.ร.ก.น้ำไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนจริง ซึ่งผ่านไปแล้ว 2 ปีแต่ก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้เลย” แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนที่นายปลอดประสพจะมีการเสนอผู้ที่ชนะการประมูลให้ ครม. เห็นชอบในวันที่ 18 มิถุนายน 2556 ซึ่งหากมีการทำสัญญากู้ได้ทันในวันดังกล่าว ก็จะสามารถดำเนินการกู้ได้ทันในโครงการนี้ แต่หากพ้นสิ้นเดือนมิถุนายน 2556 ไปแล้วก็จะไม่สามารถกู้เงินได้ทัน ทำให้ต้องกลับไปใช้เงินงบประมาณปกติ
นอกจากนี้ ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยังจับตาดูโครงการน้ำในการประมูลอยู่ว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ หากกู้เงินมาก่อนที่จะดำเนินการอาจจะมีปัญหาทำให้ถูกสอบเอาผิดด้วย หากมีใครไปร้อง ป.ป.ช.ให้มีการตรวจสอบ
แหล่งข่าวกล่าวว่า การกู้เงินพ.ร.ก.น้ำ ที่ผ่านมา นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับหน้าที่ดูแลด้านรายจ่ายและหนี้สิน ได้เซ็นอนุมัติให้มีการทำสัญญาเงินกู้ก่อนที่ ครม.เห็นชอบโครงการ เพราะตามจริงแล้วการกู้เงินนั้นผู้ชนะการประมูลจะต้องได้รับการเห็นชอบจาก ครม.ก่อน และต้องส่งเรื่องให้ทางสำนักงบประมาณ ตรวจสอบก่อนว่าราคาประมูลถูกต้องหรือไม่จึงจะส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังดำเนินการกู้ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองไม่พอใจในการทำงานของนางสาวสุภา จึงเป็นเหตุผลทำให้นางสาวสุภาโดนย้ายไปดูแล สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง แทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่าการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ไม่สอดคล้องกับข้ออ้างของรัฐบาลที่มีความจำเป็นเร่งด่วน โดยทางปฏิบัติสามารถออกเป็น พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมได้ โดยไม่ต้องมีการตรา พ.ร.ก.ฉบับนี้ และมองว่าเป็นการเลี่ยงเบิกจ่ายตามระบบงบประมาณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี