นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากสัญญาสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่  บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้กับ  บริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด ( ในเครือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซร์วิสหรือ เอไอเอส)สิ้นสุดลงในวันที่ 15 กันยายน 2556 นี้ ขึ้นอยู่กับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

จะตัดสินใจอย่างไร หรือจะให้บริษัทที่ได้รับสัมปทานให้บริการต่อไปหรือไม่

             มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ กสทช.มีมติเห็นด้วย 7 เสียง ส่วนอีก  2 เสียงไม่เห็นด้วยที่จะให้ บริษัท กสท ซึ่งเป็นผู้ให้สัมปทานกับทรูมูฟ และดิจิตอล โฟน เป็นผู้ว่าจ้าง ทรูมูฟ และเอไอเอส ให้บริการระยะเวลา 1 ปี หรือจนถึงวันที่ 15กันยายนปี2557เพื่อมิให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยทรูมูฟ กับ ดีพีซี ยังรอความชัดเจนจาก กสทช.อีกครั้ง

               “เราไม่มีความเห็นเรื่องนี้ แต่จริงๆ แล้วตัวกฎหมายไม่ต้องการให้มีการหยุดชะงักของการให้บริการ แล้วก็มีตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องคลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งในขณะที่ยังไม่มีการประมูลเกิดขึ้น แต่ว่าตัวใบอนุญาตที่หมดอายุไปแล้ว”

               นายศุภชัย กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องนี้ต้องดูว่า หากให้รายเดิมเปิดให้บริการต่อไป เพื่อมิให้กระทบผู้บริโภคนั้น จะต้องพิจารณาว่า จะขัดกับพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง  วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 46หรือไม่ แต่ หาก กสทช.มีคำสั่ง ให้ กสท ดำเนินการให้บริการต่อ ทรูมูฟ ก็มีความยินดีที่จะรับช่วงการให้บริการ เพื่อให้ความสะดวกกับผู้บริการและลูกค้า