นายสุทัศน์ ปัทมศิริวัฒน์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานนิทรรศการคุณภาพ กฟผ. ประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 9กรกฏาคม ที่ผ่านมาว่า ในส่วนโครงการลงทุนด้านความมั่นคงด้านพลังงานในส่วนของภาคใต้ หลังจากเกิดปัญหาไฟดับทั้ง 14 จังหวัด เมื่อเร็วๆนี้นั้น ล่าสุด กฟผ.เตรียมเสนอ คณะกรรมการ(บอร์ด) กฟผ.เพื่อขออนุมัติก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าระบบ500kv เชื่อมต่อจากสายจอมบึง จ.ราชบุรี บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขัณฑ์ ไปยังจ.สุราษฎร์ธานี และภูเก็ตในวงเงินลงทุนประมาณ 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงจากการจ่ายไฟฟ้าจากภาคกลางไปใช้ในภาคใต้เพื่อให้กำลังการผลิตไฟฟ้าเพียงพอกับความต้องการใช้ คาดว่าสายส่งระยะแรกจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี2562
ทั้งนี้การก่อสร้างไฟฟ้าในภาคใต้ก็เพื่อเสริมสร้างระบบจะมีโรงไฟฟ้าแห่งใหม่เข้ามา คือโรงไฟฟ้าขนอมที่ก่อสร้างโดยกลุ่มเอ็กโก้ ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ใน จ.กระบี่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเรื่องเส้นทางขนส่งถ่านหินที่นำเข้า โดยเบื้องต้นพบว่าประชาชาส่วนใหญ่ในพื้นที่สนับสนุนการก่อสร้าง อย่างไรก็ดีโครงการจะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะอนุมัติการก่อสร้างหรือไม่ หากอนุมัติจะสามารถเริ่มได้เมื่อไหร่
“ถ่านหินที่แม่เมาะจ.ลำปาง คาดว่าจะมีปริมาณถ่านหินใช้ได้อีก25ปี ซึ่ง กฟผ.ต้องเตรียมพร้อมในการรองรับปัญหาเพราะโรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นโรงไฟฟ้าพื้นฐานหลักที่ต้องผลิตไฟฟ้าป้อนแก่ภาคเหนือและยังส่งไฟฟ้ามายังภาคกลาง ในขณะที่พื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะมีระบบเขื่อนระบายน้ำรองรับอยู่แล้ว ดังนั้นก็น่าจะเป็นที่ตั้งโรงไฟฟ้าต่อไปในอนาคต แต่เมื่อถ่านหินหมดลงก็ต้องพิจารณาแนวทางการนำเข้า ล่าสุด กฟผ.ลงนามกับ การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ศึกษาเส้นทางนำเข้าถ่านหินจากประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศอื่นๆด้วย”นายสุทัศน์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี