แหล่งข่าวจาก สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) อยู่ระหว่างการพิจารณาในการออกใบอนุญาตการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ภายใต้กฎหมาย พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 ให้กับ บริษัท ทรูมูฟ จำกัด อีก 1 ปี

ปัจจุบัน ทรูมูฟ มีลูกค้าที่อยู่ในระบบราว 17 ล้านเลขหมาย และจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน(ภายใต้สัญญาของ บริษัท กสท โทรคมนาคม) ในวันที่ 15 กันยายน 2556 นี้

สำหรับการออกใบอนุญาตดังกล่าว กทค.ให้เหตุผลว่า เป็นการให้ใบอนุญาต ภายใต้มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการในกรณีสิ้นสุดการอนุญาต หรือสัญญาให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเป็นใบอนุญาตเพื่อประกอบกิจการ แต่ไม่ใช่ใบอนุญาตในการใช้คลื่นความถี่ โดยในระหว่างช่วงระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดสัญญา สำหรับการเยียวยาผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่อยู่ภายใต้สัมปทาน กสท ยังไม่มีใบอนุญาตการประกอบกิจการ

“ขณะนี้ บอร์ด กทค. ได้ให้ทรูมูฟ ยื่นขอใบอนุญาตประเภทดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมบอร์ด กทค. โดยการออกใบอนุญาตดังกล่าวจะต้องมาพิจารณาดูว่า เป็นการออกใบอนุญาตขอใช้กิจการในรูปแบบใด แบบที่ 1 หรือแบบที่ 2 ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ กทค.จะให้ทรูมูฟ เป็นผู้ให้บริการโดยตรง โดยไม่ผ่าน กสท”

แหล่งข่าวจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ขณะนี้มีเพียง บริษัท ทรูมูฟ
ที่ได้ทำการยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการประเภทที่ 3 แต่บอร์ด กทค. ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ในขณะที่ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) บริษัท ในเครือ เอไอเอส ที่อยู่ภายใต้สัญญาดังกล่าวด้วยยังไม่ได้มีการแจ้งเพื่อให้ยื่นขอใบอนุญาตฯ ดังกล่าว แต่อย่างใด ปัจจุบันดีพีซีมีลูกค้าอยู่ในระบบราว 8 หมื่นเลขหมาย

“ร่างประกาศเยียวยาที่ กทค.อยู่ระหว่างยกร่างฯ นั้น จะต้องให้เอกชนยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการเอง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการต่ออายุสัญญาสัมปทาน และอาจขัด พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2553” แหล่งข่าว กล่าว