คลังเร่งทุกหน่วยงานราชการ-รัฐวิสาหกิจ เบิกจ่ายงบ อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ 2.399 ล้านล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้าน CIMBT เตือนปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ยังเป็นตัวถ่วงสำคัญที่ทำให้การบริโภค การลงทุนชะลอตัว แต่ยังหวังส่งออกจะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจปี’57 ขับเคลื่อน
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับหัวหน้าหน่วยงาน รัฐวิสาหกิจและผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อวางแนวทางเร่งรัดการดำเนินการและการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ขยายตัวตามเป้าหมายที่วางไว้ในปี 2557 ด้วยการกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายไว้สูงกว่าปีที่ผ่านมา โดยกำหนดการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำปีงบ 2557 ไว้ที่ 95% และรายจ่ายลงทุน 82% คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบสูงถึง 2.399 ล้านล้านบาท จึงได้หารือกับหน่วยงานดังกล่าวให้รีบดำเนินการเบิกจ่ายให้ได้ในไตรมาสที่ 1 ของปีงบประมาณ 2557
กระทรวงการคลังได้มีนโยบายการคลังแบบขาดสมดุลเพื่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยในปี 2557 ได้กำหนดการขาดดุลงบประมาณไว้ที่ 2.5 แสนล้านบาท และกำหนดกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ไว้ที่ 2.525 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2% ต่อปี แบ่งเป็น รายจ่ายประจำ 2.01 ล้านล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 4.41 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในปี 2557 ได้กำหนดวงเงินเบิกจ่ายลงทุนไว้สูงถึง 5.67 แสนล้านบาท โดยกำหนดเป้าให้มีการเบิกจ่าย 95% ของวงเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่าย
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนให้เกิดการจัดทำแผนการลงทุนในระยะปานกลางและระยะยาวในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมภายใต้พ.ร.บ.วงเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ด้านการปรับเปลี่ยนไปสู่การขนส่งที่มีต้นทุนต่ำกว่า เช่น การลงทุนรถไฟทางคู่ หรือสถานีขนส่งสินค้า วงเงิน 3.57 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์ด้านการเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านและการเชื่อมต่อภายในประเทศ เช่น การก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง และด่านการค้าชายแดนวงเงิน 1.04 ล้านล้านบาท และยุทธศาตร์ด้านการยกระดับความคล่องตัว เช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ วงเงิน 5.78 แสนล้านบาท
“ขอยืนยันว่า พ.ร.บ.ดังกล่าว ได้ผ่านวาระ 3 เรียบร้อยแล้วและอยู่ขั้นตอนการทูลเกล้าฯ ทั้งนี้ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากผ่านก็จะเดินหน้าต่อ แต่ก็คงเป็นอำนาจของรัฐบาลชุดใหม่ ว่าจะพิจารณานำขึ้นทูลเกล้าฯหรือไม่ เพื่อจะได้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป แต่หากไม่นำทูลเกล้าฯพ.ร.บ.ดังกล่าวก็จะตกไปในที่สุด” นายสมชัย กล่าว
ด้านนายอมรเทพ จาวะลา หัวหน้าส่วนวิจัยเศรษฐกิจและตลาดการเงิน สายบริหารความเสี่ยงสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2557 ว่าคงไม่มีการเติบโตแรงเหมือนช่วงก่อนหน้านักเพราะมีปัญหาทางการเมืองเข้ามาสมทบอีกทั้งปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศที่สำคัญอย่างปัญหาหนี้ครัวเรือนยังสูง เราควรจะให้น้ำหนักในจุดนี้มากกว่า เพราะส่งผลกระทบไปยังหลายส่วนทำให้การบริโภคลดลง ซึ่งจะผลต่อเนื่องไปยังภาคการลงทุนทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
“ตัวเลขของหนี้ครัวเรือนในไตรมาสสามคาดว่าจะเกิน 80% สัดส่วนหนี้สินส่วนใหญ่ 50% เป็นหนี้บ้าน ตามด้วยหนี้รถและหนี้ส่วนบุคคลโดยส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท ซึ่งธนาคารเริ่มชะลอการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มดังกล่าวแล้ว”
ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 2.25% ยังมีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยลงได้อีก หลายฝ่ายกังวลว่าจะไปกระตุ้นหนี้ครัวเรือนให้พุ่งตัวสูงขึ้น แต่มองทางกลับกันหนี้ครัวเรือนสัมพันธ์กับแนวโน้มเศรษฐกิจมากกว่าแนวโน้มดอกเบี้ย เศรษฐกิจที่โตช้า ถึงแม้จะลดดอกเบี้ยลง แต่จำนวนผู้ที่จะไปกู้เพิ่มคงไม่มากนัก เพราะหนี้ที่มีก็สูงอยู่แล้ว
“ส่วนปัญหาการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อและทวีความรุนแรงยิ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว การลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ 2 ล้านล้านบาท ดำเนินการได้ช้าลง การบริโภคของภาครัฐไม่สามารถเป็นตัวเร่งเศรษฐกิจให้เติบโตได้อีกต่อไป”
ดังนั้นในปี 2557 จะต้องหวังพึ่งพาการส่งออกที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การอ่อนค่าของเงินบาทในขณะนี้อาจเป็นอีกแรงผลักดันหนึ่งให้ส่งออกมีทิศทางที่สดใส แต่ทิศทางค่าบาทค่อนข้างน่ากลัว ปี 2557 จะเห็นเงินที่ไหลออกค่อนข้างแรง แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าภาคการส่งออกอาจเติบโตไม่ถึงกับเลขสองหลัก แต่คาดว่าอาจต่ำกว่า 7% เล็กน้อย สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือการส่งออกสินค้าที่คุณภาพต่ำ ความสามารถในการแข่งขันน้อย ซึ่งต้องระมัดระวัง
ความเสี่ยงในปีหน้ายังคงต้องติดตามผลกระทบจากการลดการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปริมาณ (QE tapering) ของสหรัฐอเมริกาที่จะทำให้เงินทุนไหลออกมา อาจมีการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในบางจุดทำให้เกิดฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี