สศค.ทำใจศก.ไทยทรุดยาวถึงครึ่งปี-ลุ้นฟื้นตัวQ3หากการเมืองจบเร็ว
ส่งออกม.ค.ยังติดลบ
ส่งออก ยังติดลบต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ตัวเลขเดือนมกราคม วูบอีก 1.98% สินค้าหลักทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร ทรุดทุกตัว ยางพาราต่ำสุดรอบ 4 ปี ขณะที่ตลาดที่เคยมีศักยภาพลดลงถ้วนหน้า ขณะที่นำเข้าทรุดหนัก ร่วงไป 15% เหตุไม่มีการลงทุนใหม่ เอกชนชะลอซื้อเครื่องจักร วัตถุดิบ ก.พาณิชย์หวังไตรมาส 2 ดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยลบจากเรื่องการเมือง เป็นตัวถ่วง ซ้ำเจอภัยแล้ง กระทบภาคเกษตร
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกเดือนมกราคม 2557 ว่า ยังคงชะลอตัว โดยมีมูลค่า 17,907 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.98% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,428 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 15.5% ขณะที่ดุลการค้าเดือนมกราคม ไทยยังขาดดุล 2,521 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นปัจจัยตามฤดูกาลที่ช่วงเดือนมกราคมมักต่ำกว่าเดือนธันวาคม
ทั้งนี้กลุ่มสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์หดตัว 22% วัสดุก่อสร้างหดตัว 40.8% ทำให้สินค้าส่งออกกลุ่มอุตสาหกรรมโดยรวมลดลง 0.2% ในขณะที่สินค้าในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังคงลดลง 7.5% โดยข้าวลดลง 6.8% ยางพาราลดลง 11.7% อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋องและแปรรูป ลดลง 12.2% รวมไปถึงไก่สดแช่แข็งและแปรรูปผู้ซื้อจากตลาดญี่ปุ่นมีการต่อรองให้ไทยลดราคาไก่สดแช่เย็นและแปรรูปลง เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินบาท
“สินค้าส่งออกที่ลดลงชัดเจน คือ ข้าวหอมมะลิ ลดลงในสหรัฐ สิงคโปร์ และฮ่องกง นอกจากนี้ คำสั่งซื้อข้าวนึ่งก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ขณะที่ยางพารามีราคาต่ำที่สุดในรอบ 4 ปี และมีอุปทานมากเกินความต้องการ นอกจากนี้จีน รวมทั้งญี่ปุ่น ยังคงมีสต๊อกในระดับสูง”
ส่วนตลาดส่งออกกลุ่มศักยภาพสูง ก็ยังมีอัตราการขยายตัวที่ลดลง โดยอาเซียนขยายตัวลดลง 5%ฮ่องกง ลดลง 14% ส่วนอินเดียลดลง 11.6% อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณที่พอจะเป็นบวก คือ ตลาดหลักที่กลับมาขยายตัวได้ดี เช่น ญี่ปุ่นมีการขยายตัว 1.8% สหรัฐ ขยายตัว 0.4% และยุโรปขยายตัว 4.6%
ด้านการนำเข้าสินค้าเดือน ม.ค.2557 ติดลบ15.50% จากเดือน ธ.ค. 2556 ติดลบ 9.90% โดยมีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยการนำเข้าสินค้าในกลุ่มเชื้อเพลิงสูงขึ้น 15% ขณะที่การนำเข้าในกลุ่มสินค้าอื่นๆ ลดลงทั้งสิ้น ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบลดลง 16% เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบลดลง 6% เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบลดลง 19% เหล็ก-เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ลดลง 14%
ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า แม้ว่าก.พาณิชย์คาดว่าการส่งออกจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ในไตรมาสที่ 2/2557 เป็นต้นไป ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในตลาดคู่ค้าหลักของไทย แต่ก็ยังต้องจับตาเรื่องปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย ได้แก่ ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าสินค้าจากประเทศไทย ที่ไม่เชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าได้ทันเวลา และอาจจะส่งผลกระทบต่อระบบการผลิตและ โลจิสติกส์
นอกจากนี้ยังมีภาวะภัยแล้ง จะส่งผลให้ภาวะราคาสินค้าเกษตรของไทยประสบปัญหา โดยเฉพาะการผลิตสินค้าจำพวกพืชและปศุสัตว์ อันจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตสินค้า และขณะเดียวกันอาจจะทำให้ราคาขยับตัวสูงขึ้น และ ส่งผลกระทบถึงความสามารถในการแข่งขันด้านราคา รวมทั้งประเด็น การขยายการลงทุน โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น สินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม จะกระทบต่อการส่งออกของไทยในระยะต่อไป
“กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเป้าการส่งออกของไทยปี 2557 จะสามารถขยายตัวได้ 5% โดยมีสมมุติฐานจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ตามที่ IMF ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวอยู่ที่ 3.7% โดยมีราคาสินค้าวัตถุดิบอุตสาหกรรมโลกสูงขึ้น 1.3% และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ที่ 31.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ” นางศรีรัตน์ กล่าว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รอง ผู้อำนวยการเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวถึงกรณี การนำเข้าเดือน ม.ค. 2557 ขยายตัวลดลงถึง 15% ว่าเนื่องจากการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศลดลง ทำให้มีการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อมาผลิตสินค้าน้อยลงตามไปด้วย ซึ่งได้มี 3 สาเหตุหลัก ได้แก่ 1.การลงทุนมีการชะลอออกไปก่อนเพราะไม่มั่นใจปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้น 2.ฐานการนำเข้าสินค้าของต้นปีที่ผ่านมาส่งผลให้การนำเข้าเดือนม.ค.นี้ชะลอลงค่อนข้างมาก และ 3.ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าทุน และเครื่องจักรมีการนำเข้าที่น้อยลง
“ที่ผ่านมา สศค. ได้ติดตามตัวเลขการนำเข้าอย่างใกล้ชิด พบว่าอากรนำเข้าสินค้าลดลงอย่างต่อเนื่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าทุนที่นำเข้ามาผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ และส่งออกไปขายยังประเทศ ลดน้อยลง” นายเอกนิติ กล่าว
นายเอกนิติ กล่าวอีกว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทยขณะนี้เห็นได้ชัดว่าภาคการท่องเที่ยงได้รับผลกระทบจากการเมืองค่อนข้างมาก จากปีที่ผ่านมาขยายตัวได้กว่า 20% แต่เดือน ม.ค. นี้ คาดว่าการท่องเที่ยวจะไม่ขยายตัวเลย หากแยกเป็นการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เพียงอย่างเดียวจะขยายตัวติดลบ แต่ในต่างจังหวัดยังขยายตัวได้เล็กน้อย ทำให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวยังไม่ขยายตัวติดลบ
ทั้งนี้ สศค. คาดว่าปลายปีนี้เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวดีขึ้น เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และการส่งออกกลับมาขยายตัวได้ดี แต่ต้องยอมรับว่าขยายตัวเศรษฐกิจครึ่งปีแรกจะยังขยายตัวได้ต่ำ จากทั้งปัญหาการเมือง รวมถึงไม่มีนโยบายใหม่มาจากรัฐบาล ซึ่ง สศค. ยังประมาณการตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ 3.1% ต่อปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี