ผู้บริหาร “กสท” เรียกฝ่ายบริหารรายงานความเสี่ยง ผลกระทบ หากตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้า เศรษฐกิจขยายตัวไม่เป็นไปตามเป้า พร้อมเปิดแผนลงทุน
นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กสท พร้อมเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเปิดประมูลในเดือนสิงหาคม 2557 นี้ สำหรับคืนดังกล่าวเดิมเป็น กสท แต่ได้คืนให้กสทช.ไปเปิดประมูลใหม่
“กสท มีความต้องการเข้าไปร่วมประมูลด้วย เพื่อที่จะได้คลื่นความถี่เดิมของเราคืนมา โดยอาจจะนำมาให้บริการ 2G หรือ
4G ก็เป็นไปได้ เนื่องจาก กสท ยังมีเนตเวิร์กเดิมที่เหลืออยู่จากสัมปทาน”
ในเบื้องต้นหากชนะประมูล เรื่องงบประมาณการลงทุนนั้น กสท จะทำเรื่องเข้าไปปรึกษากับ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.)ก่อน เนื่องจากในตอนนี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.)รักษการไม่สามารถพิจารณางบประมาณได้ ซึ่งการเข้าร่วมประมูลดังกล่าว กสท อาจจะเปิดโอกาสหาพันธมิตร ที่สนใจเพื่อร่วมมือกัน แต่ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนเนื่องจากอยู่ระหว่างการศึกษา และพิจารณาเป็นการภายใน
“ในการประมูล 4G ที่กำลังจะเกิดขึ้นถึงแม้ กสท จะเป็นรัฐวิสาหกิจก็ตาม ซึ่งอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องของงบประมาณในการลงทุนที่ไม่สามารถสู้เอกชนได้ แต่การที่ กสท มีจุดแข็งในเรื่องของทรัพย์สินสัมปทานที่มีอยู่ในมือ ซึ่งสามารถดำเนินธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างทำร่างบเงื่อนไขการประมูล (ทีโออาร์) ในการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแผนงาน และความเป็นไปได้ในการเข้าร่วมประมูล”
สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ กสท จะต้องเข้าร่วมประมูลเพื่อให้ได้คลื่นความถี่มานั้นเนื่องจากปัจจุบันธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ในส่วนของบริการ หรือ เซอร์วิสที่ใหญ่สุดในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในประเทศไทย ดังนั้นหากจะทำธุรกิจในอุตสาหกรรมต่อไปก็จะต้องมีทรัพยากรที่เพียงพอ รวมไปถึงแนวโน้มการเติบโตของเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายงานตัวเลขในปี 2556 พบว่า ตลาดมือถือในส่วนของบริการ อาทิ เสียง และดาต้า หรืออินเตอร์เนต จะมีมูลค่ารวมถึง 2.3 แสนล้านบาท ส่วนในปี 2561 จะมูลค่าดังกล่าวเพิ่มเป็น 6.6 แสนล้านบาท
นายกิตติศักดิ์กล่าวอีกว่า ในประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท ที่ผ่ามนายังไม่ได้มีการหารือในประเด็นการเมืองที่กระทบธุรกิจ แต่ได้เรียกฝ่ายบริหารของ กสท ในทุกหน่วยธุรกิจไปทำรายงานความเสี่ยง ผลกระทบ และความน่าจะเป็นที่อาจเกิดขึ้น หากยังไม่มีรัฐบาลใหม่ มีการจัดการเลือกตั้ง พร้อมกับสภาพเศรษฐกิจยังไม่ขยายตัวตามที่เป้าหมายคาดการณ์ไว้
“เราได้เรียกทีมบริหารมานั่งคุยกัน ให้ทุกๆสายธุรกิจส่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ว่ามีอะไรตรงไหนบ้าง ถ้ามีแล้วต้องแก้อย่างไร แล้วเราจะพอหาอะไรมาชดเชยได้บ้าง”
อย่างไรก็ดี กสท ยังคงตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้ไว้ที่ 46,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมรายได้จากสัมปทาน หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 9,000 ล้านบาท จากปี 2556 ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 37,363 ล้านบาท โดยเป้าที่ตั้งไว้จะมาจากธุรกิจ 3G HSPA ในส่วนรูปแบบการให้บริการขายส่งบริการ (โฮลเซลล์) กับกลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น และรายอื่นๆ ซึ่งจะสร้างรายได้อยู่ที่ 25,000 ล้านบาท หรือ 60% ของรายได้รวม
ส่วนรายได้จาก 3G แบรนด์ “มาย” (my)นั้น ได้ตั้งเป้ามีรายได้ 2,500 ล้านบาท จากการขายเลขหมายให้ได้ 7 แสนเลขหมายภายในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันสามารถขายไปได้เพียง 1.7 แสนเลขหมายเท่านั้น
นอกจากนี้ธุรกิจสื่อสารตั้งเป้าจะมีรายได้ 7,500 ล้านบาท,ธุรกิจไอที มีรายได้รวม 677 ล้านบาท และธุรกิจโทรศัพท์ระหว่างประเทศ 3,600 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจอื่นๆ อาทิ ค่าเช่าใช้โครงข่าย และดอกเบี้ย เป็นต้น โดยจะมีรายได้อีกราว 6,000 กว่าล้านบาท ส่วนรายจ่ายของ กสท ในปีนี้ 42,630 ล้านบาท และดอกเบี้ยอีกราว 1,784 ล้านบาท รวม กสท จะมีกำไรก่อนหักภาษีในปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 1,634 ล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี