โบรกฯมองหลังสงกรานต์ตลาดหุ้นผันผวน เพราะฤทธิ์การเมืองที่ยังไร้ทางออก ชี้หากปีนี้ไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาขับเคลื่อน โครงการลงทุนภาครัฐชะงัก เศรษฐกิจชะลอตัว นักลงทุนเริ่มปรับพอร์ตลดการซื้อหุ้นหันมาถือเงินสดลดความเสี่ยง
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หลังวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การเมืองมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น จากการตัดสินคดีต่างๆ เช่น การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้อำนาจแทรกแซงการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี และการชี้มูลความผิดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล
ทั้งนี้ คาดดัชนีหุ้นในช่วงหลังสงกรานต์ว่าจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับที่ 1,330- 1,350จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,400 จุด โดยหากสถานการณ์ชุมนุมไม่เลวร้ายน่าจะขึ้นไปถึง 1,420 จุด แต่หากมีการประทะ หรือเกิดเหตุนองเลือด จะอยู่ที่ 1,300 จุด แต่ไม่ต่ำไปกว่านี้แน่นอนและหากไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลได้ภายในปีนี้ จะส่งผลต่อการภาพรวม เศรษฐกิจภายในประเทศ เนื่องจากขาดผู้นำที่มีอำนาจเต็มในการดำเนินนโยบายทางการเงิน ส่งผลให้การลงทุนต่างๆของโครงการรัฐหยุดชะงัก
“ตอนนี้การชุมนุมที่เกิดขึ้นก็ถือว่ายังอยู่ในภาวะที่ไม่รุนแรง แต่คงต้องดูหลังสงกรานต์ว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงการตัดสินคดีต่างๆของนายกด้วย ยังเชื่อว่าแนวโน้มการตัดสิน จะมีข้อสรุปที่เป็นจุดจบของความยืดเยื้อได้ น่าจะส่งผลดีได้ในระดับหนึ่ง โดยหากเป็นไปในทางที่ดี ก็จะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น และหากเป็นแนวโน้มในทางลบ ก็จะกระทบทางจิตวิทยาของนักลงทุน” นายปริญทร์ กล่าว
นายธวัชชัย อัศวไชยพร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลแบล็ก จำกัดให้ความเห็นในทำนองเดียวกันว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ จะเป็นการผันผวนในแดนบวกหากสถานการณ์ทางการทางการเมืองยังคงดำเนินไปด้วยความสงบ แต่หากเกิดความรุนแรงก็จะเป็นปัจจัยหลักกดดันตลาด นอกจากนี้ยังต้องติดตามเศรษฐกิจภายในประเทศที่จะเป็นปัจจัยกดดันตลาดอีกด้วย
“โดยรวมทิศทางน่าจะเป็นบวก แต่หากยังไร้ข้อยุติในด้านปัญหาทางการเมืองก็ยังคงมีความเสี่ยงพอสมควร ในขณะที่นักลงทุนจะเริ่มหันมาบริหารความเสี่ยง ลดพอร์ตลงทุนในหุ้นลง เน้นถือครองเงินสดมากขึ้น ส่วนเงินทุนต่างชาติไหลเข้าคาดว่ายังคงมีอย่างต่อเนื่อง เพราะเงินบาทอ่อนค่าจูงใจนักลงทุนพอสมควร ซึ่งกลุ่มหุ้นที่ในปีนี้มีความแข็งแกร่งที่สุดคือกลุ่มธนาคาร” นายธวัชชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี