ช่วงหลังๆ แนวคิด “ลงทุนโดยไม่ใช้เงินสักบาท” ค่อนข้างระบาด หนังสือหลายเล่ม คอร์สสัมมนาหลายคอร์ส เอาวลีข้างต้นไปใช้โปรโมทกันเต็มไปหมด จนทำให้ “ความโลภ” ที่ซ่อนอยู่ในตัวมนุษย์ผุดขึ้นมาแบบออกหน้าออกตา
ผลสุดท้าย ... หนังสือแนวนี้พากันขายดี คอร์สสัมมนาเองก็มีคนเรียนตรึม
โดยมุมมองส่วนตัว ผมคิดว่าที่แนวคิดนี้ได้รับการตอบรับที่ดีนั้น มีเหตุผลอยู่ด้วยกัน 2 ประการ คือ
1) คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเงินเก็บ แต่อยากรวย จึงพยายามหาทางได้อะไรมาฟรีๆ เพราะหากอะไรก็ตามที่ต้องใช้เงินลงทุน
ตัวเองก็คงหมดสิทธิ์ร่วมสนุก เมื่อรู้ว่ามีการลงทุนที่ไม่ต้องใช้เงิน
จึงแห่พากันสนใจ
2) เป็นแนวคิดการลงทุนที่ดูดี ดูฉลาด เพราะเป็นการทำเงินโดยไม่ต้องใช้เงิน ดูเก่งกว่าคนที่ต้องใช้เงินลงทุน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย
ถ้าใครก็ตามที่ศึกษา เรียนรู้ และเข้าใจโลกทางการเงินมามากพอ เราจะรู้ได้เลยว่า แนวคิดดังกล่าว ไม่ใช่อะไรใหม่ หลักคิดนั้นง่ายมาก ...
เมื่อไม่ต้องการใช้เงินตัวเอง ก็แน่นอนว่าต้องใช้เงินคนอื่น (OPM : Other People’s Money)
ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่กระดาษเปล่าๆ 1 แผ่น ที่เรียกว่า “สลิปเงินเดือน” ก็สามารถทำให้เราหยิบเงินธนาคารมาลงทุนบ้านเช่า
ทำกำไรให้ตัวเองได้แล้ว ยิ่งถ้าคุณมีอาชีพที่ได้รับการยอมรับอย่างเช่น แพทย์ หรือวิศวกร หรือทำงานในบริษัทชั้นนำของประเทศ เผลอๆ ได้บ้านเช่าแบบไม่ใช้เงินตัวเองเลย (กู้ 100%) แถมยังอาจได้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไปใช้ลงทุนอย่างอื่นได้อีก (กู้ 100% บวกกู้พิเศษอีก)
แต่ก็ใช่ว่าการใช้เงินคนอื่นลงทุนจะมีแต่การ “กู้ยืม” เท่านั้นมันยังมีช่องทางอื่นๆ ที่นิยมใช้กันอีก เช่น
• การขายหุ้นร่วมทุน โดยให้คนอื่นลงเงิน เราลงแรง อัตราส่วนการถือหุ้นขึ้นอยู่กับการเจรจา
• การใช้ Outsource เพื่อใช้ทรัพยากรของคนอื่น เช่น เครื่องจักรต่างๆ แทนที่จะใช้เงินตัวเองลงทุนซื้อเครื่องจักรแพงๆ มาทำงาน
• การดีเลย์การจ่ายเงิน เช่น การซื้อมาขายไปแบบมีเครดิตเทอมกับผู้ขายยาวๆ อย่างน้อยก็ให้ชนกับเครดิตที่เราให้กับผู้ซื้อพอดี
• การค้าขายแบบ Pre-order เก็บเงินลูกค้าก่อน แล้วค่อยซื้อของส่งให้ ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นการลงทุนที่ใช้เงินของตัวเองไม่มาก หรืออาจไม่ต้องใช้เลยทั้งสิ้น
ประเด็นมีอยู่ว่า “โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี”
เงินคนอื่น ทรัพย์สินคนอื่นที่เรานำมาใช้มักมี “ต้นทุน” ของมันเสมอ อย่างที่ผมเคยพูดอยู่เสมอว่า “การลงทุนที่ใช้เงินตัวเองน้อย
ก็ต้องใช้สมองเยอะ”
เอาแค่เรื่องง่ายๆ กู้เงินซื้อบ้าน 100% (ดาวน์ศูนย์) ไม่ว่าจะเพื่อปล่อยเช่าหรือเก็งกำไร อาจทำให้คุณไม่ต้องใช้เงินในตอน
เริ่มต้นเลย แต่ถ้าคุณไม่มีแผนรับมือกับห้องว่างหรือช่วงที่ยังขายไม่ได้ (ใช้หัวน้อย) การไม่ใช้เงินเลยสักบาท อาจเป็นแนวคิดที่ทำให้คุณจนลงก็เป็นได้
น้องคนหนึ่งเป็นพนักงานบริษัทชั้นนำของประเทศ เธอกู้เงินเพื่อลงทุนซื้อคอนโดมิเนียม ราคา 3 ล้านบาท โดยไม่ใช้เงินตัวเองเลย (กู้ 100%) และตั้งใจจะปล่อยเช่า 25,000 บาทต่อเดือน
โชคไม่ดีที่เธอหาคนเช่าไม่ได้เลยในช่วง 2 เดือนแรก ซึ่งนั่นทำให้เธอต้องเอาเงินเดือนตัวเองไปจ่ายค่าผ่อนบ้าน เดือนละ 20,000 บาท
ที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ คอนโดฯขนาดดังกล่าวในระแวกนั้น ปล่อยเช่ากันที่ 18,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น ทำให้กระแสเงินสดจากบ้านเช่าของเธอต้องติดลบทุกเดือน
สิ่งสำคัญในการลงทุนด้วยเงินคนอื่น ก็คือ อย่าโลภ อย่าเร่งร้อน อย่ารู้แค่รู้งูๆ ปลาๆ คิดว่าไม่ต้องใช้เงินตัวเองแล้วจะดูฉลาด จนพาลไปริลองกับความเสี่ยงที่ตัวเองยังไม่มีความพร้อมจะรับมือ
จำไว้ว่า การลงทุน คือ แผนการ การไม่ใช้เงินตัวเองเลยมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีอะไรในโลกได้มาฟรี และ Leverage หรือพลังทวีนั้นส่งผลสองทางแบบสุดโต่งเสมอครับ
ขอให้ทุกท่านมีสติกับการลงทุนนะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี