ในสังคมการปกครองระบอบประชาธิปไตย ผู้ปกครองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถูกจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งเพื่อไม่ให้เป็นการผูกขาดอำนาจการปกครอง ประเทศไทยเองก็เช่นกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ จะถูกจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง แล้วแต่ว่ารัฐธรรมนูญในขณะนั้นและกฎหมายอื่นๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะบัญญัติไว้
แต่ยังมีตำแหน่งทางการเมืองอีกประเภทหนึ่งที่สามารถดำรงตำแหน่งได้จนถึงเกษียณ โดยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อมนั่นคือ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457
โดยผู้ใหญ่บ้านมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของคนในหมู่บ้านนั้นๆ และจะพ้นตำแหน่งเมื่อมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ส่วนกำนันกำหนดให้ผู้ใหญ่บ้านแต่ละหมู่บ้านในหนึ่งตำบลเลือกกำนันขึ้นมาหนึ่งคน มีวาระการดำรงตำแหน่งเช่นเดียวกับผู้ใหญ่บ้าน
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2560 ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เห็นชอบรายงานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง เรื่อง ข้อเสนอประเด็นสำคัญเพื่อประกอบการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ (ฉบับที่...) พ.ศ. ... มีสาระสำคัญคือ การลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนันและผู้ใหญ่บ้านจากเดิมให้อยู่ในตำแหน่งจนถึงอายุ 60 ปี เหลือให้ดำรงตำแหน่งวาระละ 5 ปี
โดยให้ผู้ใหญ่บ้านมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนในหมู่บ้านนั้นๆ ส่วนกำนันมาจากการเลือกตั้งของประชาชนในหมู่บ้านที่เลือกผู้ใหญ่บ้านในตำบลนั้นๆ ที่ลงสมัครเป็นกำนัน และให้อยู่ในตำแหน่งได้คราวละ 5 ปี ไม่จำกัดวาระ เพื่อให้กำนันที่ได้รับเลือกจากประชาชนได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่ ไม่เกิดการผูกขาดอำนาจ มีความกระตือรือร้นในการทำงาน รวมทั้งการให้ประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ใหญ่บ้านทุก 3 ปี จากเดิม 5 ปี
ข้อเสนอการปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่นว่าด้วยการลดวาระดำรงตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านนั้น ประชาชนในพื้นที่ต้องการและเรียกร้องกันมานาน ยิ่งระยะหลังมีการตั้งเพจในโลกออนไลน์เพื่อคัดค้านวาระดำรงตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้าน และ
ไม่ว่าสำรวจความคิดเห็นกี่ครั้ง ประชาชนยังเห็นชอบให้แก้ไขวาระดำรงตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อลดการผูกขาดอำนาจและลดการมีอิทธิพลในท้องถิ่น
บางครั้งการอยู่ในตำแหน่งนานเกินไป เมื่อผู้นำคนหนึ่งทำผิด หากคนในพื้นที่ไม่พอใจหรือไม่ชอบใจต้องรอไปจนผู้นำเกษียณกว่าจะได้เลือกตั้งใหม่ ถึงแม้มีช่องทางให้ประชาชนในพื้นที่เข้าชื่อกันร้องเรียนและถอดถอนได้ แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้เพราะเป็นคนรู้จักกันและคนที่ได้เป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านนั้น มักจะมีเครือข่ายญาติพี่น้อง พรรคพวกมาก จึงเป็นไปได้ยากที่จะร้องเรียนหรือถอดถอนกันเอง หรือหากคนในหมู่บ้านจะเข้าชื่อร้องเรียนถอดถอน อาจจะถูกกลั่นแกล้ง
แม้ในอดีตตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านมีความสำคัญและจำเป็นต่อการปกครองมาก เพราะอยู่ใกล้ชิดคนในหมู่บ้าน การติดต่อราชการต้องทำผ่านผู้ใหญ่บ้านและกำนันก่อนเป็นลำดับแรก แต่ปัจจุบันเมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนไป มีตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ความสำคัญของกำนันผู้ใหญ่บ้านลดน้อยลง กำนันผู้ใหญ่บ้านจึงควรจะปรับตัวหากถูกลดวาระทำงานเหลือ 5 ปี และควรทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพราะหากมีผลงานเป็นที่พอใจ ประชาชนในท้องถิ่นย่อมต้องเลือกตั้งกลับเข้ามาอีก จึงไม่มีความจำเป็นใด
ต้องกลัวการลดวาระลงเหมือนอย่างที่คัดค้านกันในตอนนี้
ส่วนที่คิดว่าวาระตำแหน่งเพียง 5 ปี ไม่ต่อเนื่องนั้น ยังไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นข้ออ้างคัดค้าน เพราะตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบริหารอย่างนายกรัฐมนตรียังมีการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี และการบริหารประเทศยังเดินหน้าต่อไปได้ แม้จะเปลี่ยนตัวหัวหน้าฝ่ายบริหาร ฉะนั้นการยึดติดว่าต้องอยู่จนเกษียณ เพื่อให้การบริหารงานต่อเนื่องนั้น เป็นเพียงการหวงตำแหน่งหัวโขนที่ตนยึดครองอยู่เท่านั้น ถึงแม้ตำแหน่งจะเหลือวาระเพียง 5 ปี แต่ตำแหน่งทางการเมืองอื่นๆ ในอดีตแม้จะจำกัดให้ดำรงตำแหน่ง 4 ปี และห้ามดำรงตำแหน่งติดต่อกันสองสมัย ยังเกิดการวางเครือข่ายและผูกขาดอำนาจเกิดขึ้นได้
หากสำรวจอายุการดำรงตำแหน่งกำนันและผู้ใหญ่บ้านทุกวันนี้ จะพบว่ามีอายุน้อยลงทุกวันและน้อยกว่าในอดีตมาก บางคนเป็นผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่อายุ 30 ปี กว่าจะเกษียณยังทำงานอีก 30 ปี นับเป็นการอยู่ในตำแหน่งที่นานมาก เว้นแต่ออกโดยสาเหตุอื่น เช่น ลาออก หรือหมู่บ้านที่ปกครองถูกยุบ หรือผลประเมินการปฏิบัติหน้าที่ไม่ผ่าน แต่เป็นไปได้ยาก และหากตอนเลือกตั้งใช้เงินซื้อเสียงหรืออิทธิพลอื่นเข้ามาเพื่อมาหาผลประโยชน์ ประชาชนในพื้นที่ต้องอดทนกันหลายสิบปีกว่าจะพ้นตำแน่ง
อำนาจหน้าที่ความสำคัญของกำนันผู้ใหญ่บ้านย่อมมีอยู่ในพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457 หากถามว่ามีกำนันผู้ใหญ่บ้านสักกี่คนที่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตัวเองตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ คงยากที่จะได้รับคำตอบ การดำรงตำแหน่งในอดีตมักสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ย่อมรู้ดี แต่มีกำนันและผู้ใหญ่บ้านส่วนหนึ่งที่รู้จักบทบาทหน้าที่ตัวเองและปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ดูแลทุกข์สุขประชาชน เช่น การนำประชาชนรณรงค์และทำกิจกรรมต่างๆ ในการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ช่วยแก้ปัญหาเมื่อลูกบ้านมีปัญหาระหว่างกัน และเรื่องอื่นๆ ที่ควรได้รับความชื่นชม
สุดท้ายแล้วประเด็นปัญหาการลดวาระการดำรงตำแหน่งของกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะผ่านสภาออกมาเป็นกฎหมายใช้บังคับได้หรือไม่นั้น ยังไม่สำคัญเท่ากับขณะที่ยังคงทำงานอยู่ในตำแหน่ง กำนันผู้ใหญ่บ้านสร้างประโยชน์ให้กับหมู่บ้านและดูแลทุกข์ของประชาชนให้สมกับการที่ได้รับความไว้วางใจมาจากการเลือกตั้งหรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี