ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ ทำให้การติดต่อสื่อสารรวดเร็ว ฉับไวมาก หากมีเหตุร้ายเหตุด่วนเกิดขึ้น ทุกคนสามารถหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอ และส่งต่อไปให้บุคคลอื่นหรือสาธารณชนได้รับรู้ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ บนโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็วทันใจ
เมื่อไม่นานนี้ เกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจราจร 4 นาย ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรบริเวณถนนพระราม 4 ย่านคลองเตย กรุงเทพฯ และมีเรื่องร้องเรียนการจอดรถกีดขวางทำให้การจราจรติดขัด ขณะตั้งจุดตรวจมีชาย 1 คน เข้ามาถ่ายภาพการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ตำรวจจราจรกับพวกวิ่งไล่จับและใส่กุญแจมือชายคนดังกล่าว เพื่อจับกุมไม่ให้ถ่ายภาพ
แม้เจ้าพนักงานตำรวจทั้ง 4 นายจะจับกุมชายคนดังกล่าวได้ แต่มีการบันทึกภาพตำรวจจราจรขณะทำการจับกุมชายคนดังกล่าวพร้อมทั้งใส่กุญแจมือ เผยแพร่ในโลกออนไลน์ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตำรวจตรวจจับประชาชนเยี่ยงอาชญากร ถูกผลักชนกระจก จับกดกับพื้นใส่กุญแจมือ ต่อหน้าประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นจำนวนมาก เพียงเพราะถ่ายรูปการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจเท่านั้น ซึ่งต่อมาผู้บังคับการตำรวจจราจรมีคำสั่งย้ายตำรวจทั้ง 4 นายออกจากพื้นที่ พร้อมกับยืนยันว่า ประชาชนสามารถถ่ายภาพการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ได้และไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
การถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอขณะตำรวจปฏิบัติหน้าที่ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามโดยเฉพาะไม่ว่าประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แม้แต่พระราชบัญญัติต่างๆ ทั้งระเบียบปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้บัญญัติห้ามหรือเอาผิดประชาชนที่ถ่ายภาพและบันทึกภาพ แต่เหตุใดตำรวจส่วนหนึ่งถึงทำการจับกุมคนที่ถ่ายภาพ ราวกับทำผิดกฎหมายร้ายแรง และเหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดกระทบกระทั่งกับประชาชนที่ถ่ายภาพตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่
ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้หลายครั้ง เช่น หลายปีก่อนตำรวจทางหลวงผู้หนึ่งทะเลาะกับคนขับรถทัวร์ที่ไม่ยอมรับผิดตามข้อหาที่ตำรวจแจ้ง แล้วคนขับรถทัวร์พยายามถ่ายคลิปวีดีโอ โดยตำรวจขัดขวางไม่ให้ถ่าย แต่ภาพโต้เถียงกัน ถูกบันทึกจากกล้องวีดีโอตัวอื่นที่ซ่อนอยู่ในรถทัวร์คันนั้น และต่อมาไปปรากฏในสังคมออนไลน์ โดยตำรวจทางหลวงคนนั้นพูดประโยคที่ว่า “คุณไม่มีสิทธิ์มาถ่ายผม” ซึ่งสวนทางกับความเห็นผู้บังคับการตำรวจจราจรว่า ประชาชนสามารถถ่ายภาพการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจได้ ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่ในความเป็นจริง ตำรวจส่วนมากไม่ยินยอมให้ถ่ายภาพ
นอกจากนี้ ด่านตรวจตำรวจแห่งหนึ่งยังเคยติดป้ายข้อความพร้อมสัญลักษณ์ห้ามถ่ายภาพและคลิปวีดีโอ ระบุว่า “กระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนหรือเป็นอุปสรรค และขัดขวางการปฏิบัติการตามหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ห้ามถ่ายภาพหรือวีดีโอ ฝ่าฝืนมีความผิดตามประมวลกฎหมาย ป.วิ.อาญา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” ต่อมาสังคมออนไลน์ได้แชร์ภาพป้ายที่ด่านตำรวจแห่งนั้น จนเป็นที่วิจารณ์กันมากว่า ประชาชนไม่มีสิทธิ์ถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอขณะตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้เลยหรือ
เมื่อพิจารณาตามหลักกฎหมายเกี่ยวกับข้อความบนป้ายดังกล่าว การถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอันรบกวนการทำงานหรือก่อให้เกิดอุปสรรคในการทำงาน คนถ่ายอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และถ้านำภาพไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์หรือแสดงความคิดเห็นในทางที่ไม่ดี นอกเหนือจากที่ปรากฏตามภาพ จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงของตำรวจคนนั้นหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในกรณีนี้เจ้าพนักงานตำรวจสามารถเอาผิดดำเนินคดีได้ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แต่ถ้าเป็นการกระทำไปตามปกติวิสัยของประชาชน ติชมด้วยความเป็นธรรม เพื่อป้องกันส่วนได้เสียของตน หรือการถ่ายภาพเป็นประโยชน์กับสังคมโดยไม่เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดย่อมทำได้ และไม่ผิดกฎหมาย
ยังมีความเข้าใจไม่ตรงกันและสื่อสารไม่ถูกต้อง ประเด็นถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอขณะตำรวจทำการตรวจค้น หรือปฏิบัติหน้าที่อื่นตามกฎหมาย โดยฝ่ายตำรวจเองยืนยันจะปกป้องสิทธิ์ของตน ห้ามถ่ายภาพ ส่วนประชาชนยืนยันว่า ถ้าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบและสุจริตจริง ย่อมสามารถถ่ายภาพเพื่อเป็นหลักฐานได้ หรือหากถูกตำรวจกลั่นแกล้งยังสามารถนำภาพไปเป็นหลักฐานต่อสู้คดีได้
ในอนาคตคงต้องมีปัญหาเรื่องนี้อีกอย่างแน่นอน หากไม่มีใครในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือผู้มีอำนาจในการออกกฎหมาย มีคำสั่งหรือออกกฎระเบียบข้อบังคับอย่างชัดเจน เฉพาะเพียงคำพูดยืนยันสิทธิ์ของประชาชนเมื่อเกิดการกระทบกระทั่งกับเจ้าพนักงานตำรวจยังไม่เพียงพอ และสุดท้ายเมื่อตกลงกันได้ระหว่างผู้เสียหายกับตำรวจ เรื่องทำนองนี้มักจะหายเงียบไปอีกเช่นเคย
การจะห้ามไม่ให้ถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอ คงเป็นไปได้ยาก เพราะคนส่วนใหญ่มีสมาร์ทโฟน โทรศัพท์ที่มีแอพพลิเคชั่น เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจ ย่อมต้องหยิบขึ้นถ่ายภาพและส่งต่อในโลกออนไลน์ ทางออกเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ควรพบกันครึ่งทางหรือไม่เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เช่น การตั้งด่านดักจับผู้ร้ายหรือตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายในคดีสำคัญ
สำหรับการตั้งด่านจุดตรวจเพื่อกวดขันวินัยจราจรหรือกรณีตำรวจทางหลวงนั้นยังไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ที่จะห้ามไม่ให้ประชาชนถ่ายภาพหรือบันทึกวีดีโอ ยิ่งตำรวจถูกตั้งข้อสงสัยจากสังคมเกี่ยวกับการเรียกรับส่วยรับสินบน หรือมีส่วนแบ่งจากใบสั่ง ยิ่งทำให้ประชาชนอยากจะบันทึกภาพขณะปฏิบัติหน้าที่ว่ากระทำการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี