nn มาอีกแล้วครับพี่น้อง...ตามสัญญาที่ว่า “แนวหน้า โลกธุรกิจ” จะตามเกาะติดเรื่องพวกเหล็กนำเข้าขี้ฉ้อให้ถึงที่สุด....ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะมีพวก “หนอนบ่อนไส้” ในกรมศุลกากร...ชี้ช่องของพ.ร.บ.กรมศุลกากรฉบับใหม่...หวังจะให้พวกโกงภาษีแผ่นดินรอดตัวไปอย่างหน้าด้านๆ...!! วันนี้ “หมุนตามทุน” จะมาขมวดปมเรื่อง...ที่มีผู้นำเข้าเหล็กเคลือบเจออัลลอยด์เลี่ยงอากรเซฟการ์ด...สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของ “มหากาพย์เหล็กโกงชาติ”...คงไม่ต้องปูพื้นกันแล้วแต่คงอยากจะรู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น “ผู้นำเข้าขี้ฉ้อ” ที่อยู่ในกลุ่มความผิดนี้จะใช้เล่ห์กลใดอีก..หลังจากงัดมาใช้แล้วสารพัดรูปแบบในช่วง 2-3 ปีมานี้..!! อย่างนี้ครับ...หลังจากใช้วิธีดื้อตาใส...ไม่ยอมให้ความร่วมมือด้านการตรวจสอบทั้งส่งเอกสารที่ไม่เกี่ยวข้องมาให้....ไปล็อบบี้ผู้ร่วมกระทำความผิด (บริษัทที่เล็กกว่า) ว่าอย่าเพิ่งยอมคดี....แอบอ้างชื่อรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลมาข่มขู่...จนถึงขั้นทำหนังสือข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องในคดีอาญาต่ออธิบดีกรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง...ฯลฯ...แต่เมื่อท่านอธิบดีกรมศุลกากร ที่ชื่อ กุลิศ สมบัติศิริ ...ยังคงยึดมั่นในหลักการที่ถูกต้องเดินหน้ารักษาผลประโยชน์ของชาติของแผ่นดิน...ก็ทำให้ผู้นำเข้าที่เลี่ยงอากรเซฟการ์ดรายนี้...หาช่องหารูใหม่ๆ ที่มุดหนีความผิดไปให้ได้....!! เรื่องที่ “หมุนตามทุน” ได้รับทราบมา...ก็คือมีความพยายามจะไปวิ่งเต้นหลายต่อครั้ง... ให้กรรมการคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง (คปป.) หรือ บอร์ดเซฟการ์ด...ขยายคำนิยามของคำว่า “ยานยนต์” ให้กว้างขึ้น...เพื่อที่จะทำให้เหล็กที่ถูกขายไปยังบริษัทที่ผลิตสินค้าที่ไม่ได้อยู่ในข้อยกเว้นอากรเซฟการ์ด...ได้เข้ามาอยู่ในข้อยกเว้นด้วย...!!แต่ด้วยเหตุที่ในบอร์ดเซฟการ์ดนั้นมีตัวแทนที่มากจากหลายภาคส่วน...ทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม และภาคเอกชน..จึงไม่อาจหักด้ามพร้าด้วยเข่าได้...กรรมการที่นั่งอยู่ในบอร์ดเซฟการ์ดเอง...โดยเฉพาะตัวแทนจากหน่วยราชการ...ก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้าทำอย่างนั้นมันก็ผิดกฎหมายแน่ๆ...และไม่มีวันรอดพ้นจาก “ม.157”...สรุปว่าวิ่งเต้นมาหลายรอบ...แต่ช่องนี้รูนี้ไปไม่ได้แล้ว....!! แต่ยังครับพี่น้อง...ยังไม่จบไม่ยอมง่ายๆ...อันนี้กระทำการหนักข้อขึ้นอีก...!!คราวนี้วิ่งหาผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงพาณิชย์...ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ว่านี้เหนือกว่าอธิบดีหรือปลัดกระทรวงพาณิชย์...(พอนึกออกไหมครับว่าใคร)...ซึ่งผู้ใหญ่ที่ว่านี้ก็เป็นคนของคนใหญ่ในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลท่านนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ...นี่แหล่ะ...และก็เป็นคนที่วนเวียนอยู่แวดวงธุรกิจรู้จักมักคุ้นกับบรรดาพ่อค้านายทุนเป็นอย่างดี....โดยให้ผู้ใหญ่ที่ว่านี้เอ่ยปากกับ...กรมศุลกากร...ให้ช่วยเหลือผู้นำเข้ารายนี้ด้วย...โดยอ้างว่า....เขาเป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ในประเทศไทย มีส่วนช่วยทำให้ตัวเลขการส่งออกของไทยเติบโต...กรณีที่ผู้นำเข้ารายนี้เลี่ยงอากรเซฟการ์ด...และกรมศุลกากรกำลังจะ “ออกแบบประเมินอากร” ที่ขาดกับเขา 1.5 พันล้านบาทนั้น....ทางกรมศุลกากร...พอจะช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้างไหม...!! โอ้ว แม่เจ้า...หมุนตามทุน...ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เลย... !! เจอมาแบบนี้...เจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ที่เกี่ยวข้องก็....กระอักกระอ่วนใจ...สิครับพี่น้อง...ผู้ใหญ่ขอมา..จะไม่ทำก็เกรงใจ...แต่ถ้ากระทำไปขนาดว่าทำผิดเป็นถูก...ก็เสี่ยงจะโดน ม.157...ศักดิ์ศรีข้าราชการไทยจะเหลืออยู่ไหม...และต่อจากนี้...หากผู้กระทำความผิดรายอื่นเดินตามรอยนี้บ้าง...กรมศุลกากรจะทำอย่างไร...!! ท่านนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา...ครับผม...กระผมนั้นยังเชื่อมั่นมาตลอดว่าท่านคือนายกรัฐมนตรีที่ดีของประเทศนี้...เชื่อมั่นว่าท่านยังคงตั้งใจแน่วแน่ต่อการขจัดปัญหาการคอร์รัปชั่นที่เป็นต้นต่อของหลายปัญหาในสังคมไทยและฉุดรั้งให้ประเทศชาติไม่รุดหน้าได้อย่างที่ควรจะเป็น...!! กระผมเกาะติดเรื่องนี้มาเกือบ 3 ปีแล้ว...เลขาฯท่านนายกฯเคยนำเสนอให้ท่านทราบบ้างไหมว่ามีปัญหานี้อยู่...หรือมัวแต่
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี