แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาว่าไม่จำเป็น...แต่ในที่รัฐบาลก็เข็นออกมาจนได้....โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2560...ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค. 2560...โดยประชาชนที่จับจ่ายสินค้าและบริการ สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ในวงเงินไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน...
“ช็อปช่วยชาติ”…ทำมาแล้ว 2 ปี...ช่วงปีแรกก็เข้าใจได้เพราะประเทศอยู่ในภาวะช็อกกับการเปลี่ยนรัฐบาล...มาปีที่ 2 ก็ต้องทำอีกเพราะกำลังซื้อยังไม่ฟื้นเนื่องจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจโลก..
มาถึงครั้งนี้....มีหลายคำถามที่น่าคิดตามกับมาตรการนี้...เช่น ยังจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหรือไม่...ก็ในเมื่อตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวมออกมาเติบโตได้ดีเกินขนาด ส่งออกก็โตทะลุเป้า 2 รอบแล้ว...จากเกิน 5% มาเป็นเกิน 7% จนตอนนี้ขยับเป้าไปที่ 8% แล้วด้วยซ้ำไป...
ดังนั้นการจะอ้างว่ารัฐต้องยอมเสียรายได้จากภาษี 2-3 พันล้านบาท...เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยกำลังซื้อจากมาตรการนี้ 1-2 หมื่นล้านบาท...ย่อมไม่น่าจะเป็นเหตุเป็นผลนัก....ปัญหาของเศรษฐกิจไทยตอนนี้ไม่ใช่จีดีพีไม่โต....แต่ปัญหาคือมันกระจุกตัวอยู่ในแค่กลุ่มทุนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น...อานิสงส์ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้กระจายไปสู่คนส่วนใหญ่ของประเทศ....ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรากหญ้า 11 ล้านราย ที่ลงทะเบียนรับบัตรจน....เกษตรกรรายย่อย...ข้าราชการชั้นผู้น้อย...แรงงานระดับล่าง-กลาง ในบริษัทห้างร้านต่างๆ...ประชาชนผู้มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ฯลฯ...คนพวกนี้ไม่ได้รับรู้รสชาติหอมหวานของตัวเลขจีดีพีที่โตเกินขาดเลยสักนิด....นี่ต่างหากคือปัญหาเศรษฐกิจไทยที่รัฐบาลควรเร่งแก้ไข....
ความเดือดร้อนของ...เศรษฐี...เจ้าของห้างเซ็นทรัล...เดอะมอลล์...โรบินสัน...พารากอน..เอ็มโพเรียม...เกษรพลาซ่า ZEN และโรงแรมดัง...ที่ขายของไม่ได้ตามเป้านั้น....มันจำเป็นด้วยหรือ...ที่รัฐบาลต้องยอมเสียสละรายได้เป็นพันล้านบาทไปบรรเทาความเดือดร้อนให้....
ยอมรับว่าเถอะว่าคนที่จะไปใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีจากมาตรการ “ช็อปช่วยชาติ” นั้น...ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศ...อย่างน้อยต้องมีรายได้มากพอที่จะเสียภาษี...แล้วคนพวกนี้ เอาเข้าจริงในช่วงเวลาสิ้นปีก็ต้องใช้จ่ายอยู่แล้ว...ซึ่งก็ใช้จ่ายในห้างร้านและกิจการของ....เจ้าสัว...และเศรษฐี...ผู้มีอันจะกินเสียเป็นส่วนใหญ่...สินค้าที่ซื้อๆกันเคยรู้ไหมว่าเป็นสินค้าของคนไทยกี่เปอร์เซ็นต์ สินค้านำเข้ากี่เปอร์เซ็นต์....
แล้วก็ที่ผ่านมา...พวกเศรษฐีพวกนี้...ทำอะไรเพื่อสังคมและประเทศชาติมากน้อยแค่ไหน...เมื่อเทียบกับจ้องแต่จะเอาตัวรอดในช่วงบ้านเมืองวิกฤติ...หรือช่วงที่กอบโกยได้ก็หาช่องทางที่จะเสียภาษีให้ได้น้อยที่สุด...ลองไปดูสิว่า...กิจการพวกนี้...จ่ายเงินเดือนให้พนักงานอย่างสมเหตุสมผลไหม...มีการปรับรายได้ สวัสดิการให้พนักงานมากน้อยแค่ไหน...ฯลฯ
ภาษี 2-3 พันล้านบาท...สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล สถานีอนามัย...ในถิ่นที่ห่างไกลได้หลายแห่งเลยนะ... !! เชื่อเหลือเกินว่าคนเกินครึ่งของประเทศนี้คิดเหมือนกันว่า...ช็อปช่วยชาติ..หรือช่วยใคร...??
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี