บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบมจ.ฮานาไมโครอิเล็คโทรนิคสหรือ HANA โดยกำไรสุทธิของ HANA 3Q60 อยู่ที่ 770 ล้านบาท (+35% YoY, +14.0% QoQ)
ตามประมาณการของเรา แต่ดีกว่าตลาดคาด 8% กำไรสุทธิ 9M60 อยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท คิดเป็น 82% ของประมาณการปีนี้ของเรา
ยอดขายของ HANA ใน 3Q60 อยู่ที่ US$172 ล้าน (+13% YoY, +12.0% QoQ) ตามประมาณการของเรา ยอดขาย 9M60 อยู่ที่ US$474 ล้าน คิดเป็น 73% ของประมาณการทั้งปี ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งขึ้น 3% QoQ แต่ยอดขายของ HANA ในรูปเงินบาทก็ยังเพิ่มขึ้นอย่าง
น่าประทับใจที่ 5.7 พันล้านบาท (+9% YoY, 9%QoQ) สาเหตุสำคัญมาจากปัจจัยด้านฤดูกาล และการวางจำหน่าย smartphone รุ่นใหม่ของค่ายต่างๆ อย่างเช่น iPhone, Samsung, Oppo, Huawei, และ Vivo
กำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q60 อยู่ที่ 648 ล้านบาท (+30% YoY, +14% QoQ) โดยอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวอยู่ที่ 14.5% จาก 14.6% ใน 2Q60 และ 14.2% ใน 3Q59 ส่งผลให้กำไรจากธุรกิจหลักใน 9M60 อยู่ที่ 1.88 พันล้านบาท คิดเป็น 75% ของประมาณการทั้งปีของเรา
จากบทวิเคราะห์กลยุทธ์ล่าสุดของ KGI China & Hong Kong (Paper A-Share Weekly)
ชี้ว่ามีเงินทุนไหลเข้าไปที่หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้กลุ่ม semiconductor ยังเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนมากเป็นอันดับที่ 2 โดยบทวิเคราะห์ฉบับนี้แนะนำให้เน้นที่หุ้น semiconductor, 5G/optical communication,หุ้นที่มีประเด็นโยงกับ iPhone X, และ supplier ที่คาดว่าอุปทานจะตึงตัว เช่น OLED, memory, passive component, Silicon wafer, LED, และ sapphire panel ใน 4Q60-1Q61 ซึ่งมีมุมมองสอดคล้องกับ KGI Taiwan ที่มีมุมมองเชิงบวกกับหุ้นที่เกี่ยวกับ Apple Key Supplier และสอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่าวัฏจักรขาขึ้นจะยืดต่อไปถึง 1H61
เราปรับลดสมมุติฐานค่าเงินบาทในปี 2560F-2562F ลง 0.3%, 5.8% และ 8.8% เป็น 34.1 บาท/US$, 32.2 บาท/US$, และ31.2 บาท/US$ตามลำดับ แต่มีการปรับเพิ่มสมมุติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายในสกุลดอลลาร์ปี 2561-2562 ขึ้นเล็กน้อยอีก 4% และคงสมมติฐาน GPM
ดังนั้นเราจึงปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักปี 2561-62 ลงประมาณ 2%
เรายังคงคำแนะนำให้ถือ HANA โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปลายปี 2561 ที่ 48.0 บาท อิงจาก PER ที่ 14.5x ถึงแม้ว่าราคาหุ้นในปัจจุบันจะไม่เหลือ upside แล้ว แต่ก็ยังให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 4.0%
ปัจจัยเสี่ยงกรณีที่เกิดภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานโดยไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier เจ้าอื่น, ราคาวัตถุดิบแพงขึ้น, ค่าเงินบาทแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (เราใช้สมมุติฐานค่าเงินบาทที่ 34.1 บาท/US$ ในปี 2560, 32.2บาท/US$ ในปี 2561, และ 31.2 บาท/US$ ในปี 2562),และเกิดความล่าช้าในการจัดส่งสินค้า
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี