เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 รัฐบาลท้องถิ่นกาตาลุญญาได้จัดการลงประชามติ (Referendum) ที่ต้องการให้แคว้นกาตาลุญญาเป็นรัฐเอกราชออกจากประเทศสเปน
คำถามบนบัตรลงคะแนน มีเพียงคำถามเดียวคือ “คุณต้องการให้กาตาลุญญาเป็นรัฐอิสระในรูปแบบของสาธารณรัฐหรือไม่” ส่วนคำตอบมีให้เลือก 2 ข้อ คือ “ใช่” หรือ “ไม่”
แม้รัฐบาลกลางสเปนได้ส่งกำลังทหารมาขัดขวาง แต่ผลการลงประชามติปรากฏว่า ร้อยละ 92.01 ของผู้ลงคะแนนหรือประมาณ 2.04 ล้านคน ต้องการให้กาตาลุญญาเป็นรัฐอิสระ ส่วนที่คัดค้านอยู่ที่ร้อยละ 7.99 ประมาณ 177,547 คน มีผู้ออกมาใช้สิทธิร้อยละ 43 ประมาณ 2.28 ล้านคน จากผู้มีสิทธิลงคะแนนทั้งแคว้น 5.31 ล้านคน ประชากรทั้งแคว้นกาตาลุญญามีประมาณ 7.5 ล้านคน
จะเห็นได้ว่าคนที่ไม่มาลงคะแนนยังเป็นอัตราส่วนเกินครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด
แคว้นกาตาลุญญา(Generalitat de Catalunya) มีลักษณะพื้นที่คล้ายสามเหลี่ยม ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปน ประกอบด้วย 4 เมือง คือ บาร์เซโลนา ฌิโรนา แยย์ดา และตาร์ราโกนา เมืองหลวง คือ บาร์เซโลนา จัดเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในแคว้นทั้งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของสเปน(รองจากกรุงมาดริด) ประชากรที่อาศัยอยู่ในแคว้นเรียกว่า “ชาวกาตาลา หรือกาตาลัน (Catala/Catalan)”
กาตาลุญญาเป็นหนึ่งใน 17 แคว้น ที่มีรัฐบาลอิสระปกครองตนเอง(Generalitat) และถือเป็นเขตปกครองตนเองที่มั่งคั่งที่สุดในสเปน มีขนาดเศรษฐกิจเติบโตกว่าโปรตุเกสทั้งประเทศ มีนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ เป็นประธานาธิบดี กาตาลุญญาสามารถกำหนดนโยบายด้านภาษี สาธารณสุข และการศึกษาของตนเอง ทั้งชาวกาตาลันมีวัฒนธรรมเก่าแก่หลายศตวรรษ มีภาษาและประเพณีของตนเอง
กาตาลุญญาถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสเปนมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 และช่วงปีพ.ศ.2475 รัฐบาลสเปนเห็นชอบให้กาตาลุญญามีอิสระในการบริหารตนเอง จนปีพ.ศ.2482 นายพลฟรันซิสโก ฟรังโก เข้าปกครองสเปนด้วยระบอบเผด็จการทหาร ได้ออกกฎหมายห้ามพูดภาษาท้องถิ่นในประเทศ เช่น ภาษากาตาลัน ภาษาบาสก์ และใช้อำนาจควบคุมกาตาลุญญา เพื่อทำลายการแข็งข้อ ทำให้เกิดการสังหารและเนรเทศผู้คน นายพลฟรังโกได้ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518
รัฐธรรมนูญสเปน ปีพ.ศ.2521 บัญญัติว่า ห้ามไม่ให้มีการแบ่งแยกดินแดนของแคว้นใดแคว้นหนึ่งในสเปนและในปีพ.ศ.2553 ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า การกล่าวถึงกาตาลุญญาในฐานะประเทศไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย และภาษาของชาวกาตาลันไม่มีสถานะเช่นเดียวกับภาษาสเปน
ด้านรัฐบาลสเปน นายกรัฐมนตรี นายมาริอาโน รามอย จึงมองว่า มติแยกตัวดังกล่าวผิดกฎหมาย ทั้งศาลรัฐธรรมนูญของสเปนมีคำวินิจฉัยยืนยันด้วยว่า มติไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชาวกาตาลันถูกล่อลวงให้ไปลงประชามติ ดังนั้น เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2560 รัฐบาลสเปนจึงตัดสินใจเข้ายึดอำนาจแคว้นกาตาลุญญา เพื่อไม่ให้แยกตัวเป็นอิสระ ทั้งศาลสเปนได้ออกหมายจับนายคาร์เลส ปุกเดมองต์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเขารวม 8 คน ข้อหากบฏและปลุกระดมฝูงชนให้ต่อต้านรัฐบาล
ความต้องการแยกตัวเป็นเอกราชของชาวกาตาลัน ส่วนหนึ่งคงมาจากความไม่พอใจที่รัฐบาลกาตาลุญญาต้องส่งภาษีร้อยละ 16 หรือ ประมาณ 1,600 ล้านยูโร ให้รัฐบาลกลางสเปนในกรุงมาดริด เพื่อนำไปช่วยแคว้นอื่นๆ ที่ยากจนกว่า หากแยกตัวออกมา กาตาลุญญาก็ไม่ต้องเสียภาษีส่วนนี้ แน่นอนทางรัฐบาลสเปนย่อมไม่พอใจ เพราะจะขาดรายได้มหาศาล
ย้อนไปเมื่อ 18 กันยายน พ.ศ. 2557 มีการลงประชามติของชาวสกอตแลนด์ที่ต้องการแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักร ผลคือ คะแนนเสียงของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
กับการแยกตัวเป็นฝ่ายชนะกลุ่มที่สนับสนุนการแยกตัวของสกอตแลนด์ไปอย่างเฉียดฉิว ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 55.3
อังกฤษและสกอตแลนด์รวมตัวกันด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจ และยังได้รวมไอร์แลนด์เหนือ และเวลส์ เข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ อำนาจการบริหารจัดการทรัพยากรด้านต่างๆ ของรัฐบาลสกอตแลนด์ เช่น การจัดเก็บภาษี, การใช้จ่ายงบประมาณ, จัดสรรสวัสดิการต่างๆ, ให้การรับรองสิทธิเสรีภาพพลเมืองสกอตแลนด์ ล้วนถูกมองว่า อยู่ภายใต้การครอบงำของรัฐบาลอังกฤษ จึงนำไปสู่แนวคิดในการแยกตัว ภายใต้การนำของนายอเล็กซ์ ซัลมอนด์ นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ ในขณะนั้น สังกัดพรรคแห่งชาติสกอต เป็นผู้นำการรณรงค์ภายใต้คำขวัญ “เยสสกอตแลนด์” (Yes Scotland) โดยให้เหตุผลสำคัญว่า หากสกอตแลนด์เป็นเอกราชจะทำให้สามารถบริหารกิจการของรัฐได้เองทั้งหมด
เมื่อผลคะแนนเสียงของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวของสกอตแลนด์เป็นฝ่ายชนะ นายอเล็กซ์ ซัลมอนด์ ได้แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก
สกอตแลนด์มีรายได้มหาศาลจากอุตสาหกรรมน้ำมันแถบชายฝั่ง อังกฤษจึงมองว่าหากปล่อยให้แยกตัวเป็นเอกราช อาจทำให้อังกฤษต้องเสียโอกาสด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนประเด็นเรื่องความมั่นคงโดยเฉพาะแสนยานุภาพทางทะเล เพราะอังกฤษจัดตั้งฐานทัพเรือดำน้ำอยู่ในพื้นที่ของสกอตแลนด์
หากการแยกสกอตแลนด์ประสบความสำเร็จ ย่อมส่งผลต่อตำแหน่งของนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น ที่ต้องถูกบีบให้ลาออกแสดงความรับผิดชอบ ข้อเสนอของนายเดวิด คาเมรอน ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนลงประชามติ คือ สัญญาที่จะให้อำนาจบริหารกิจการภายใน เช่น การจัดเก็บภาษี การใช้จ่ายงบประมาณ ตลอดจนคำมั่นสัญญาจะให้สวัสดิการต่างๆ แก่สกอตแลนด์เพิ่มขึ้น หากยอมล้มเลิกความคิดแยกตัว มีส่วนโดยตรงทำให้การลงประชามติแยกสกอตแลนด์ไม่ประสบผล
ในเวลานั้นรัฐบาลอังกฤษอาจคาดการณ์และมั่นใจว่า ข้อเสนอที่ให้อาจทำให้ฝ่ายที่ต้องการแยกตัวไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวและลงมติ “ไม่เห็นชอบ” จึงปล่อยให้ลงมติได้อย่างเสรี แต่น่าคิดว่าหากคาดการณ์ไม่ถูกต้อง รัฐบาลอังกฤษจะปล่อยให้มีการลงมติอย่างเสรีหรือ? แล้วหากผลมติออกมาเห็นด้วยกับการแยกสกอตแลนด์ เหมือนกรณีกาตาลุญญา รัฐบาลอังกฤษจะยอมรับกับผลนั้นเช่นไร?
สิ่งที่ต้องยอมรับทั้งกรณีของกาตาลุญญาและสกอตแลนด์ คือ ความต้องการของประชาชนในการตัดสินใจและอำนาจบริหารกิจการภายในของตนเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี