เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้สนองนโยบายของกระทรวงกลาโหมที่จะให้นักโทษในคดีผลิตอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ดัดแปลงสิ่งเทียมอาวุธปืน เข้ารับอบรมก่อนส่งไปช่วยงานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อดึงศักยภาพของนักโทษที่มีอยู่ออกมาใช้และให้ความรู้กับกองทัพ เช่น นำคนที่รู้เทคนิคเกี่ยวกับการผลิตปืน ให้มาอบรมฝึกทักษะเกี่ยวกับการผลิตอาวุธปืนที่ถูกต้อง
จากการสำรวจนักโทษในเรือนจำและทัณฑสถาน 142 แห่ง ของกรมราชทัณฑ์ พบผู้ต้องขังที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับการผลิตและดัดแปลงอาวุธปืน 225 คน แต่ผ่านการคัดกรอง 30 คน ที่สามารถผลิตอาวุธปืนได้จริง ซึ่งขั้นตอนต่อไปกรมราชทัณฑ์จะให้นักจิตวิทยาประเมินศักยภาพและพฤติกรรมเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ในอนาคตหลังจากพ้นโทษจะประพฤติตัวดีและไม่เป็นภัยต่อสังคม
สำหรับเงื่อนไขที่ต้องผ่านการคัดกรองและจะคัดเหลือเพียง 20 คน จาก 30 คน คือต้องเป็นนักโทษที่ใกล้พ้นโทษและไม่ใช่นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ เมื่อนักโทษสำเร็จหลักสูตรการฝึกอบรมและรับโทษครบตามคำพิพากษาแล้ว ส่วนราชการจะจัดหางานให้เพื่อช่วยเหลือทางราชการและสังคมต่อไป
นักโทษที่มีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ส่วนมากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงหรือคดีร้ายแรง เช่น ทำร้ายร่างกายฆ่าผู้อื่น ฯลฯ และพื้นฐานทางจิตใจอาจเหี้ยมโหดกว่านักโทษทั่วไป ซึ่งอาจมองได้ว่าเป็นดาบสองคม แม้ช่วงระยะที่ใกล้พ้นโทษจะประพฤติตัวและผ่านประเมินศักยภาพทางจิตจากนักจิตวิทยา แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า นักโทษที่เข้ารับการฝึกอบรมผลิตอาวุธปืน จะไม่กลับมาทำความผิดซ้ำอีก
นักโทษซึ่งมีทักษะฝีมือเกี่ยวกับการผลิตอาวุธปืนมักแอบผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุที่หาได้ภายในเรือนจำ ถึงแม้ในเรือนจำจะมีระเบียบหรือกฎเกณฑ์ ห้ามพกสิ่งใดติดตัว หากมีติดตัว ของนั้นต้องไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นและได้รับการตรวจสอบแล้ว ทั้งต้องไม่เป็นสิ่งของที่ช่วยในการหลบหนีได้
อย่างไรก็ตาม แม้เรือนจำในต่างประเทศมีกฎเกณฑ์ห้ามไว้แต่ด้วยความพยายามของนักโทษ ประกอบกับมีเวลาว่าง ทำให้บางคนสามารถผลิตอาวุธในเรือนจำ เช่น ในประเทศเยอรมนีมีนักโทษทำปืนลูกซองขึ้นจากขาเตียงเหล็กและตะกั่วจากเทปติดผ้าม่าน จุดปืนด้วยแบตเตอรี่ขนาด AA กับเศษหลอดไฟแตก บางคนทำอุปกรณ์เพื่อกลั่นเป็นเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์ เพราะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปในเรือนจำ หรือบางคนยังสามารถผลิตเครื่องรับส่งสัญญาณวิทยุจากในเรือนจำได้ นั่นย่อมแสดงว่านักโทษเหล่านี้หากอยู่ข้างนอกเรือนจำ จะมีโอกาสผลิตชิ้นงานออกมามากมาย
สำหรับในประเทศไทยยังมีคนจำนวนหนึ่งสามารถผลิตอาวุธปืนขึ้นใช้เองได้ เช่น ปืนอัดลม เพราะวิธีไม่สลับซับซ้อนผลิตจากไม้กระดานขึ้นทรงเป็นรูปปืน ลำกล้องใช้เหล็ก ก่อนยิงมีการปั๊มลมเข้ากระบอกปืนและยิงด้วยลูกตะกั่ว เอาไว้ล่าสัตว์และแม้ไม่ใช้ลูกกระสุนจริงยิง แต่ลูกตะกั่วก็สามารถทำอันตรายบุคคลอื่นได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีปืนปากกาที่ทำขึ้นเองโดยใช้วัสดุไม่กี่ชิ้นแต่ใช้ลูกกระสุนจริง เมื่อยิงระยะใกล้สามารถทำอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และเป็นที่นิยมของกลุ่มเด็กวัยรุ่น หรือแม้กระทั่งปืนไทยประดิษฐ์ ที่เรียกกันว่า “โคลท์ตราควาย” อาจเป็นปืนลูกโม่หรือปืนออโตเมติกที่ผลิตจากการประกอบขึ้นเองแบบง่ายๆ เป็นปืนพกสั้นแบบหักลำกล้อง ใช้กระสุนลูกซองขนาด 12 k เวลายิงจะกระจายออก ซึ่งอาวุธปืนประเภทนี้อันตรายมาก หากมีไว้ในครอบครอง จะนำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมได้
ต้นเหตุคดีอาชญากรรมที่เกิดจากใช้อาวุธปืน 90% เป็นปืนเถื่อน หมายถึงปืนที่ไม่ได้รับการขึ้นทะเบียน หรือปืนที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง แต่มีเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งที่ทำให้อาวุธปืนนั้น ต้องถูกยกเลิกทะเบียนหรือเครื่องหมายทะเบียนถูกลบแก้ไข สามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ปืนยี่ห้อดังที่ผลิตจากบริษัทต่างประเทศ แต่ลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่มีการเสียภาษีหรือได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และปืนเถื่อนที่ผลิตขึ้นเองในประเทศไทย เรียกกันว่า ปืนไทยประดิษฐ์
สาเหตุที่ใช้ปืนเถื่อนก่ออาชญากรรม เพราะไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นผู้ครอบครองและปืนเถื่อนมีราคาถูก หาซื้อง่าย และเมื่อกระทำความผิดแล้ว แม้จะใช้หลักฐานวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์ บางครั้งพยานหลักฐานประกอบอื่นๆ อาจไม่มีน้ำหนักมั่นคงพอว่า ใครเป็นคนใช้ปืนกระบอกดังกล่าว
ในความเป็นจริงยังมีกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่นอกเรือนจำ สามารถผลิตอาวุธปืนพกสั้นได้ เป็นที่รับรู้ของสังคมกันมานานแล้วว่า ลักลอบแอบประดิษฐ์ขายกัน ลักษณะทำด้วยมือหรือแฮนด์เมด(Handmade) ไม่ใช้เทคโนโลยีช่วยเหมือนในต่างประเทศ ที่ชิ้นส่วนเป็นเหล็ก สามารถหล่อได้จากบล็อกหรือแม่พิมพ์ของโรงงานและนำมาประกอบเป็นปืนได้เลยนับเป็นกลุ่มบุคคลอันตรายอีกเช่นกัน
ประเด็นสำคัญว่า กองทัพไทยมีความจำเป็นขนาดไหนถึงต้องพึ่งพาบริการนักโทษในคดีอาวุธปืนเพื่อช่วยกองทัพในการผลิตอาวุธปืน แม้ที่ผ่านมาประเทศไทยยังไม่ได้ผลิตปืนสั้นเองต้องซื้อปืนสั้นจากต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งที่ไม่ได้มีวิธีการผลิตที่สลับซับซ้อน กองทัพน่าจะฝึกบุคลากรเองหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาถ่ายทอดวิทยาการให้กับคนในกองทัพ หรือเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญโดยผ่านการคัดเลือกตามขั้นตอน
นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือผลกระทบหลังจากฝึกอบรมเสร็จและส่งตัวนักโทษไปยังหน่วยราชการเพื่อให้ช่วยงานผลิตอาวุธปืน บุคคลเหล่านี้จะเสาะหาวิธีการอื่นเพื่อผลิตอาวุธ และใช้ในทางที่ผิดอีกหรือไม่ หรือวิธีการนี้จะส่งเสริมให้มีผู้กระทำความผิดเพิ่มขึ้นและไม่เกรงกลัวที่จะผลิตปืนไปใช้ในทางที่ผิด เพราะเมื่อเข้าเรือนจำแล้ว มีช่องทางไปฝึกอบรมเพื่อมีโอกาสทำงานให้กองทัพ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องสำคัญที่ควรระวัง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี