บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT เราคาดว่ากำไรสุทธิของ AOTใน 1Q61 จะออกมาแข็งแกร่งที่ 5.9 พันล้านบาท (+16.6% YoY;+58.8% QoQ) คิดเป็น 24% ของประมาณการปีนี้ทั้งปีของเรา โดยผลการดำเนินงานที่น่าพอใจจะมีสาเหตุสำคัญมาจาก i) ฐานที่ต่ำในปีที่ผ่านมา (ถูกกระทบจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ) และ ii) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 68%, 88% และ 52% YoY ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2560) นอกจากโมเมนตั้มด้านบวกจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนแล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวชาติอื่นก็เพิ่มขึ้นในอัตรา 12% ถึง 22% YoY ด้วย (อย่างเช่น เกาหลีใต้, อินเดีย และญี่ปุ่น)
เพิ่ม capacity ของสนามบิน
ในอีกสิบปีข้างหน้า AOT จะเพิ่ม capacity ในการให้บริการผู้โดยสารเป็น 181 ล้านคน (สุวรรณภูมิ เฟส II และสนามบินในต่างจังหวัด) จากปัจจุบันที่ 101 ล้านคน เรามองว่าอุปสงค์การเดินทางทางอากาศกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะเกิดภาวะความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในอีกห้าปีข้างหน้า ซึ่งการปรับสมดุลจะเกิดจากการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส II ภายใน
ปี 2563 คาดว่าจะมีการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินสุวรรณภูมิในเดือนพฤษภาคม 2561
กรอบเวลาในการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินสุวรรณภูมิกำหนดไว้ในเดือนพฤษภาค 2561 โดยเราประเมินว่าการเปิดประมูลดังกล่าวจะทำให้ AOT มี upside เพิ่มขึ้นจากi) รายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อยปีละ 269 ล้านบาทจากพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นของ Terminal 1 ในสนามบินดอนเมือง และii) รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประมูลสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่ค้าปลีก (ทั้งที่ดำเนินการอยู่แล้วและโครงการใหม่)ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีอัตราส่วนแบ่งรายได้สูงขึ้นตั้งแต่ปี 2563เป็นต้นไป และจะทำให้ AOT มีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1 พันล้านบาทโดยสรุปแล้ว เราคาดว่าสองปัจจัยนี้จะทำให้รายได้ในระยะยาวของบริษัทเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 2.8 พันล้านบาท
เรายังคงแนะนำให้ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 82.12 บาท (DCF : WACC 6.97%; terminal growth 4%) โดยได้รวมถึงi) การปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นอีก 2% ถึง 3% หลังปี FY18และ ii) การปรับสัมประสิทธิ์ beta เป็น 0.85x จากเดิม 0.95x จากแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งตามการขยายสนามบิน แต่อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ได้รวม upside จากการปรับ PSC ตามแผนพัฒนาของบริษัท ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 บาทต่อหุ้น
ความเสี่ยงหลักจะมาจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย, ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองรอบใหม่ของไทย และเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี