บริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย สร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาล แต่มีปัญหาประการหนึ่งที่สำคัญ คือ บริเวณชายฝั่งจะถูกน้ำทะเลกัดเซาะ ทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นที่ดินและมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ ต้องกลายเป็นทะเล และเรียกกันว่า “โฉนดทะเล”
เมื่อไม่นานมานี้ เกิดกรณีบุกรุกบริเวณอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี โดยกลุ่มนายทุนทำฟาร์มเลี้ยงหอย สร้างบ้านพักกลางทะเล(ฟาร์มสเตย์) ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟาร์มหอย และเก็บค่าเข้าพักคืนละ 800 บาท ทั้งยังกีดกันไม่ให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าทำการประมง จนชาวบ้านเรียกการจับจองบริเวณนั้นว่า โฉนดทะเล
บริเวณดังกล่าวทางราชการ (คณะกรรมการประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี) ได้อนุญาตให้ชาวบ้านในพื้นที่ทำประมงพื้นบ้านอยู่ก่อนแล้วในเนื้อที่จำนวน 50,000 ไร่ แต่เดิมจากที่ชาวบ้านเคยจับจองพื้นที่เพื่อทำประมง โดยใช้ไม้ไผ่เป็นแนวกั้น ปัจจุบันถูกบุกรุกโดยใช้เสาไฟฟ้าปักแทน
อ่าวบ้านดอนครอบคลุมหลายอำเภอของสุราษฎร์ธานีตั้งแต่อ.ไชยาถึง อ.บ้านดอน มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในชายฝั่งภาคใต้ เพราะเป็นแหล่งพันธุ์สัตว์น้ำทะเลหลากหลายชนิด จากการสำรวจโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง(ศวทก.) พบสัตว์น้ำ 5 กลุ่ม เป็นกลุ่มปลา 38 ชนิด กลุ่มกุ้ง 8 ชนิด กลุ่มหอย 6 ชนิด กลุ่มปู 1 ชนิดและกลุ่มสัตว์น้ำอื่นๆ อีกรวม 54 ชนิด
ชาวบ้านที่อยู่บริเวณอ่าวบ้านดอนมีอาชีพทำประมงพื้นบ้าน โดยเฉพาะการทำฟาร์มหอย ทั้งหอยแครง หอยนางรม ซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อของอ่าวบ้านดอน ดำรงวิถีชีวิตแบบชาวบ้านทำฟาร์มหอยสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้เป็นที่หมายปองของกลุ่มนายทุนและผู้มีอิทธิพลทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ นักธุรกิจ ที่จะแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรชายฝั่ง
ด้วยระบบเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปเป็นแบบทุนนิยมมากขึ้น สภาพสังคมที่เน้นการเจริญทางวัตถุ วิถีชีวิตการทำประมงพื้นบ้านนับวันยิ่งหาดูยากมากขึ้น เพราะประมงแบบพาณิชย์เข้าแทนที่ใช้เครื่องมือประมงลักษณะทำลายล้าง ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ชายฝั่ง สัตว์น้ำหลายชนิดต้องสูญพันธุ์ ซึ่งชาวประมงพื้นบ้านต้องต่อสู้หลายทาง เพื่อความอยู่รอด ทั้งรักษาพื้นที่ทำกินและดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม
ก่อนหน้านี้โฉนดทะเลบริเวณอ่าวบ้านดอน เคยซื้อขายกันไร่ละ 10,000-30,000 บาท แต่ราคาปัจจุบันซื้อขายเปลี่ยนมือเพิ่มสูงขึ้น เพราะมีธุรกิจฟาร์มหอยมาเกี่ยวข้อง หากซื้อขายกันปัจจุบันราคาจะอยู่ที่ไร่ละ 100,000-200,000 บาท นายทุนจึงทำทุกวิถีทางที่จะกีดกันไม่ให้ชาวบ้านทำประมงพื้นบ้าน และนำพื้นที่ดังกล่าวมาจัดสรรเอง เพื่อทำฟาร์มเลี้ยงหอยและที่พักกลางทะเลให้นักท่องเที่ยวมาพัก
การบริหารจัดการพื้นที่ประมงอ่าวบ้านดอน ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการประมงจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้แทนเกษตรกร ผู้แทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน โดยมีการประชุมกันหลายฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในการแย่งพื้นที่ทำประมง ทำฟาร์มเลี้ยงหอย
การบุกรุกของกลุ่มนายทุนส่งผลกระทบต่อประมงพื้นบ้าน ผู้แทนกลุ่มประมงพื้นบ้านซึ่งมีอำนาจต่อรองน้อยกว่าได้ร้องเรียนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน นายกรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจนกระทั่งแม่ทัพภาค 4 ได้ลงพื้นที่เอง สถานการณ์จึงค่อยๆคลี่คลายลง
อย่างไรก็ตามหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบโดยตรงคือกรมประมงและกรมเจ้าท่า หาก 2 หน่วยงานนี้ประสานงานกัน หรือบริหารจัดการลักษณะเดียวกัน คงไม่เกิดปัญหานายทุนบุกรุกชายฝั่งทะเล
ปัญหาเริ่มแรกเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยการปฏิบัติหน้าที่ หรือร่วมรู้เห็นเป็นใจด้วยในลักษณะผลประโยชน์ต่างตอบแทน หรือเจ้าหน้าที่อาจเกรงใจผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นจนไม่กล้าดำเนินการ ทำให้กลุ่มประมงพื้นบ้านต้องร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ และหากไม่เป็นข่าว คงไม่มีใครกล้าเข้ามาจัดการกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่
นอกจากนี้หลายพื้นที่ติดทะเลภาคใต้ ถูกกลุ่มนายทุนบุกรุกหาประโยชน์ เพราะมองว่าลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนสูง เช่น พื้นที่อุทยานแห่งชาติทะเลน้อยครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งอาศัยสัตว์น้ำและนกน้ำหลากหลายพันธุ์ ถูกข้าราชการผู้มีอิทธิพลเข้าไปถือครองบุกรุกที่ดิน มีการออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นจำนวนถึง 7 หมื่นไร่ ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบและเพิกถอนเอกสารสิทธิ
แม้ทางราชการพยายามจัดการปัญหาการบุกรุกที่ของนายทุน แต่ไม่เคยดำเนินการได้เสร็จเด็ดขาด เมื่อเกิดความเสียหายต่ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดินทำกิน หรือความเปลี่ยนไปของระบบนิเวศน์ขึ้นแล้ว เป็นเรื่องที่ยากจะเยียวยาเสมอ และต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการจัดการปัญหา
ทุกแห่งที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จะมีคนเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ เปรียบได้กับพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลหรือที่เรียกกันว่าโฉนดทะเล ในอดีตไม่ได้รับความสนใจจากนายทุน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ความต้องการของคนเปลี่ยนไป จึงมีความพยายามเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของพื้นที่โฉนดทะเลเพื่อให้มีคุณค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น
โฉนดทะเลอ่าวบ้านดอน เป็นแหล่งประมงพื้นบ้านที่สำคัญ สมควรอนุรักษ์ไว้ให้สำหรับคนในพื้นที่อย่างแท้จริง ใครก็ตามที่คิดเปลี่ยนวัตถุประสงค์พื้นที่ทำกิน หรือบุกรุกหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สมควรที่จะได้รับการดำเนินการและลงโทษตามกฎหมาย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี