กรณีที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ขอเลื่อนโรดแมปการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) จำนวน 5 เมกะเฮิรตซ์ ออกไปจนกว่าผลการศึกษาของจุฬาฯต่อกรณีจัดสรรคลื่น 900 MHz ที่ กสทช.จัดสรรให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เพื่อใช้ในระบบสื่อสารรถไฟฟ้าจะมีความชัดเจน รวมทั้งยังเสนอให้ปรับปรุงเงื่อนไขการประมูลคลื่น 1800 MHz จำนวน 45 เมกะเฮิรตซ์ ใหม่จากเดิมที่แบ่งเป็น 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 15 เมกะเฮิรตซ์เป็น 9 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการรายเล็กที่ต้องการใช้คลื่นเพียง 5 เมกะเฮิรตซ์เท่านั้น.....!! เชื่อว่าผู้คนโดยทั่วไปอาจจะไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้หากว่า...กสทช.มีเหตุผลเพียงพอ...
แต่เหตุที่ทำให้หลายฝ่ายยังตะขิดตะขวงใจก็คือ.... เหตุผลที่ กสทช.อ้างเหตุที่ต้องซอยย่อยคลื่น 1800 MHz จาก 3 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 15 เมกะเฮิรตซ์ เป็น 9 ใบอนุญาต ใบอนุญาตละ 5 เมกะเฮิรตซ์ นั้นเพื่อเปิดทางให้รายย่อยเข้ามาแข่งขันนั้น...มันชวนให้คิดได้ว่าน่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ใครอีกหรือไม่
ทั้งนี้สิ่งที่ กสทช.ควรจะทบทวนนั้น ไม่ใช่แค่การซอยย่อยใบอนุญาต แต่สมควรต้องทบทวนตั้งเกณฑ์ราคาประมูลขั้นต่ำที่อิงฐานราคาประมูลในครั้งก่อน คือ 37,457 ล้านบาท/ใบอนุญาต(15 เมกะเฮิรตซ์) ก่อนจะทอนลงมาเป็น 12,500 ล้านบาท/5 เมกะเฮิรตซ์ เพราะ กสทช. ก็รู้อยู่เต็มอกว่าราคาประมูลครั้งก่อนไม่ได้เป็นราคาพื้นฐานตามราคาตลาด แต่เกิดจากบริษัทสื่อสารรายหนึ่ง....มือลั่น...เคาะราคาประมูลสูงเสียจนเรียกได้ว่าอาจจะ “เกินกำลัง”...จนสุดท้ายก็เลยต้องทิ้งใบอนุญาต...ร้อนถึง กสทช.... ต้องวิ่งไปร้องขอให้นายกฯงัด ม.44 ผ่าทางตันให้....
ราคาตั้งต้นประมูลที่สูงเกินจริงดังกล่าว เป็นราคาที่กล่าวได้ว่าแพงเกินราคาตลาด เกินกว่าที่ผู้ประกอบการจะแบกรับไหว... จึงเป็นเรื่องที่ กสทช.ควรจะมีการทบทวน เพราะแม้แต่ 2 ค่ายมือถือที่ได้ใบอนุญาตไปอย่างเอไอเอส และทรูมูฟ ยังดิ้นขอให้รัฐและกสทช.ยืดเวลาการจ่ายค่าธรรมเนียมให้ถึง 7 ปี ซึ่งล่าสุด กสทช.มีมติจะขยายให้ราว 3-5 ปี... ดังนั้นการจะคาดหวังจะมีผู้ประมูลรายใหม่ หรือรายเล็กเข้าร่วมประมูลนั้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน....
นอกจากนี้ หากพิจารณาสภาพตลาดปัจจุบัน ผู้ประกอบการรายใหญ่ไม่ว่าจะเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ต่างมีคลื่นความถี่อยู่ในมือมากพอจะรองรับการดำเนินธุรกิจไปได้อีกหลายปี โดยทรูมูฟและเอไอเอสมีคลื่นความถี่ในมือไม่น้อยกว่ารายละ 55 เมกะเฮิรตซ์ ส่วนดีแทคนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะเพิ่งบรรลุข้อตกลงรับเซ็งลี้คลื่น 2300 มาจากบริษัททีโอทีอีกกว่า 60 เมกะเฮิรตซ์ รองรับธุรกิจไปได้อีก 7-8 ปี... ส่วนรายใหม่ ส่วนรายเล็กที่ กสทช.คาดหวังไว้นั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะมีรายได้เข้ามา.... แม้แต่บริษัททีโอทีและ กสท โทรคมนาคม...ซึ่งเป็นกิจการของรัฐเองก็ตาม....!! ในเมื่อต้องกลับไปตั้งตัวคิดโจทย์กันใหม่แล้ว...ก็ควรคิดในทุกประเด็น...เพื่อจะได้เคลียร์ให้ทุกคนได้หายสงสัย...จะได้ทำทีเดียวให้จบ...ไม่ต้องหวนกลับมาดิ้นรนหาทางออกแบบ “งงงง”...เพื่อแก้ไขความผิดพลาดของตน...nn
พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี