บริษัทหลักทรัพย์(บล.)บัวหลวงวิเคราะห์หุ้นบมจ.เดลต้าอีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มระยะยาวของ DELTA หนุนโดยธุรกิจสินค้าอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มยานยนต์ และธุรกิจในประเทศอินเดีย แม้ยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่ยังไม่มาก แต่คาดคำสั่งซื้อใหม่จะเข้ามาอย่างรวดเร็วจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อีกทั้งงบการเงินที่แข็งแกร่งจะหนุนให้บริษัทประกาศอัตราเงินปันผลที่ให้ผลตอบแทนราว 4% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะสั้นยังถูกกดดันด้วยค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ที่แข็งค่าแนะนำให้นักลงทุนรอให้เห็นภาวะอัตราแลกเปลี่ยนที่คลี่คลายลงก่อนค่อยเข้าสะสมหุ้น “ถือ”
เบื้องต้นเราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/60 ที่ 1.46 พันล้านบาทสูงขึ้น 1% YoY และ 3% QoQ ผลประกอบการที่คาดเพิ่มขึ้น YoY มาจากอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ของ DELTA ที่แข็งแกร่ง (โดยเฉพาะธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มยานยนต์ และธุรกิจในประเทศอินเดีย)เชื่อว่าจะกลบผลกระทบของค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น 8% ได้ เราประเมินยอดขายในไตรมาส 4/60 ที่ 375 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 5% YoYและ 4% QoQ ขณะที่คาดยอดขาย
ทั้งปี 2560 ที่ 1.44 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8% YoYโดยยอดขายอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มยานยนต์คาดทะยานขึ้น 70-80%ในปี 2560 แต่เรามองว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะหดตัวลงจาก 26.5% ในปี 2559 มาอยู่ที่ 25.7% ในปี 2560 เนื่องจากเงินบาทแข็งค่า ซึ่งคาดมีผลมากกว่าอัตรากำไรที่ขยายตัวจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงมากขึ้น และการประหยัดต่อขนาด
ปัจจัยเรื่องอุปสงค์สินค้าจะไม่ใช่ประเด็นกดดันผลประกอบการเพราะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปเป็นผลดีต่อผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์ความต้องการสินค้าที่ให้อัตรากำไรสูงของ DELTA-automotive power supplies, converters, และ onboard chargers สำหรับรถยนต์ EV/PHEV จะยังเป็นตัวหนุนกำไรต่อเนื่อง แต่เงินบาทที่แข็งค่าและยอดขาย legacy products ที่ลดลงยังเป็นปัจจัยกดดันผลการดำเนินงานในระยะสั้น เราประเมินว่าทุกๆ 1 บาทที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลให้กำไรหลักลดลง 8% และอัตรากำไรขั้นต้นหดตัว 0.5% ในปี 2561 เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2561 ลง 8% เพื่อสะท้อนสมมุติฐานค่าเงินบาทส่งผลให้ราคาเป้าหมายของเราลดลงมาจาก 94 บาท เป็น 87.50 บาท
ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มยานยนต์ และ datacenterเป็นตัวนำการเติบโตในปี 2561 เบื้องต้นบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2561เติบโต 10% สูงกว่าคาดการณ์ของเราที่ 9% เล็กน้อย (เป็น 1.57พันล้านเหรียญสหรัฐ) เราเชื่อว่ายอดขายที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์กลุ่มยานยนต์ จะเติบโตแกร่งต่อเนื่อง รวมถึงคาดอัตรากำไรขยายตัว(การประหยัดขนาด) จากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยี ขณะที่คาดยอดขายผลิตภัณฑ์Datacenter จะเพิ่มขึ้นในปีนี้เช่นกัน หนุนโดย replacement cycle และโครงการ datacenter ใหม่ อีกทั้งเชื่อว่าธุรกิจในประเทศอินเดียของบริษัทยังโตได้อีกมาก อย่างไรก็ตาม ธุรกิจการผลิตพัดลมอิเล็กทรอนิกส์จะเติบโตช้าลง เนื่องจากอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนการผลิต คาดกำไรหลักปี 2561 เติบโต 6% YoY
ที่มา : บล.บัวหลวง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี