บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN บริษัทอ้างว่าการที่ต้นทุนสาหร่ายเพิ่มประมาณ 15-20% ในปี 2560 (แม้ว่าจะมีการสั่งซื้อล่วงหน้าเป็นเวลานานถึงหนึ่งปี) เป็นเพราะปริมาณการผลิตในจีนและญี่ปุ่นลดลง ส่งผลทางอ้อมให้ราคาสาหร่ายในเกาหลีแพงขึ้น ฉุดให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลง >330bps เหลือ 32.4% ใน 9M60 ในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องอุปทานและราคาสาหร่ายในจีนและญี่ปุ่นคลี่คลายลงไปแล้ว แต่บริษัทยังคาดว่าต้นทุนสาหร่ายจากเกาหลีจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อไปในปี 2561 ทำให้บริษัทคาดว่ามาร์จิ้นจะไม่ดีขึ้นในปี 2561 แสดงให้เห็นว่า TKN ไม่มีอำนาจต่อรองกับตัวแทนและนโยบายล็อกต้นทุนสาหร่ายเอาไว้ 1 ปี ล่วงหน้า ใช้ไม่ได้ผล
ค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการขยายธุรกิจ
เราคาดว่าค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นจากสามด้าน1.การรักษาและขยายธุรกิจในประเทศเพิ่มขึ้น 2.การขยายช่องทางกระจายสินค้าใหม่ๆ และหาผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ในจีน 3.การสร้างแบรนด์ในตลาดส่งออกใหม่ๆ โดยบริษัทมีแผนจะขยายตลาดเพิ่มในสหรัฐ ซึ่งบริษัทกำลังอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนที่เมื่อรายได้เพิ่มก็จะทำให้มีความต้องการลงทุนเพิ่ม หมายถึงสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายที่จะสูงขึ้นในอนาคต
คาดกำไรใน 4Q60F ไม่หวือหวา
ยอดขายโตประมาณ 10% ในงวด 9M60 และคาดว่าต่อเนื่องใน 4Q60 ทั้งนี้เราคาดว่าการส่งออกน่าจะโตต่ำกว่าที่คาดไว้ แต่ธุรกิจในประเทศน่าจะโตดีกว่าคาด ทั้งนี้เนื่องจากสต๊อกสาหร่ายจำนวนมากใน 3Q60 (ซึ่งมีต้นทุนสูง) และค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่เพิ่มขึ้นก็จะกระทบกับทั้งอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรจากการดำเนินงาน (operating margin) ดังนั้น ถึงแม้เราจะคาดว่ารายได้ใน 4Q60F จะโตได้ถึงสองหลัก แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 191 ล้านบาท (-18% YoY, +19% QoQ) ทั้งนี้ กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลมาจากฐานที่ต่ำใน 3Q60 เนื่องจากมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 22 ล้านบาท
ลดราคาเป้าหมายเหลือ 19.60 บาท
เมื่อดูจากประมาณการ 4Q60F ของเราแล้ว ผลประกอบการของ TKN ปี 2560 น่าจะออกมาต่ำกว่าประมาณการของเราประมาณ 14% และต่ำกว่าของตลาดรวม (consensus) ประมาณ 8% เพื่อสะท้อนถึงแนวโน้ม opex ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น และเป้ารายได้บริษัทที่คาดว่าจะโต 12-13% เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2560/61/62 ลง 13%/16%/18% โดยเราได้ปรับลดสมมุติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ลงเหลือแค่ 6%/8%/8% (จากเดิมปีละ 10%), ปรับลดสมมุติฐานอัตราการเติบโตของการส่งออกเหลือ 12%/15%/15% (จากเดิมปีละ 20%), ปรับลดสมมติฐาน GPM ลงเหลือ 32.5%/33%/33% (จากเดิมที่ 33%/34.5%/34.5%), และปรับเพิ่มสมมุติฐานสัดส่วน SG&A/ยอดขาย เป็น 16%/17.5%/17.5%(จากเดิมที่ 15.5%/16%/16%.
ปัจจัยเสี่ยงจากต้นทุนสาหร่ายสูง พึ่งพาตลาดจีนมาก การเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี