บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบมจ.ไทยออยล์หรือ TOP กำไรสุทธิของ TOP ใน 4Q60 อยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท (+19% YoY,-9% QoQ) สูงกว่า Bloomberg consensus 4% และสูงกว่าประมาณการของเรา 6% สาเหตุมาจากกำไรจากสต๊อก 3.3 พันล้านบาท (เราคาดไว้แค่ 1.5 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตามบริษัทมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเรือบรรทุกน้ำมันหนึ่งลำ 547 ล้านบาท ใน 4Q60 ขณะที่บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H60 ที่ 3.75 บาท/หุ้น โดยกำหนดขึ้น XD ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเต็มปีที่ 5.3% (รวมปันผลงวด 1H60 ที่ 1.50 บาท/หุ้น)
กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY มาจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 677 ล้านบาท จากที่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 870 ล้านบาท ใน 4Q59 อย่างไรก็ตามกำไรที่ลดลง QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่าย SG&A สูงขึ้นจากทั้งการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเรือบรรทุกน้ำมันหนึ่งลำ 547 ล้านบาท และการจ่ายโบนัสพนักงาน
ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ :
i) กำไรจากธุรกิจโรงกลั่นลดลงเล็กน้อย QoQ เป็นเพราะ base GRM ลดลงถึง 26% QoQ เหลือ US$6.0/bbl เนื่องจาก 1.ฐานเปรียบเทียบที่สูงของ spread เบนซินใน 3Q60 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดโรงกลั่นได้แรงหนุนจากพายุเฮอริเคน Harvey ที่พัดเข้าใส่สหรัฐในเดือนสิงหาคม และ 2.ต้นทุน Murban crude premium ที่เพิ่มขึ้นเป็น US$2.9/bbl จาก US$1.5/bbl ใน 3Q60 ทั้งนี้ บริษัทได้ลดอัตราการกลั่นลง 3KBD QoQ เหลือ 309KBD อย่างไรก็ตาม ธุรกิจโรงกลั่นของ TOP ยังได้อานิสงส์จากกำไรจากสต๊อกที่สูงถึง 3.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 48% QoQ จากการที่ราคาน้ำมันดิบดูไบฟื้นตัวขึ้น US$8/bblระหว่างเดือนกันยายนถึงธันวาคม
ii)กำไรจากธุรกิจ aromaticsเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจาก spread เบนซินเพิ่มขึ้น 9% QoQ เป็น US$213/ton ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในเอเชีย อัตราการใช้กำลังการผลิตของบริษัทอยู่ที่ 82% ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า
iii)กำไรจากธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นลดลง QoQ เนื่องจาก spread น้ำมันหล่อลื่นลดลง 13% QoQ เหลือ US$458/ton เพราะถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงจากภาคเกษตร และการฟื้นตัวของโรงงานผลิตน้ำมันหล่อลื่นในสหรัฐหลังจากที่ต้องปิดตัวชั่วคราวเพราะพายุเฮอริเคน Harvey
iv)สำหรับรายการพิเศษ บริษัทมีการบันทึกผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเรือบรรทุกน้ำมันหนึ่งลำ547 ล้านบาทใน 4Q60 หลังจากที่บริษัทมีแผนที่จะยกเลิกการจัดส่งสินค้าขั้นกลางด้วยเรือลำนี้ โดยจะเปลี่ยนไปผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงแทน
v)Accounting GIM ลดลง 6% QoQ เหลือ US$11.8/bbl ใน 4Q60
ถึงแม้ว่ากำไรสุทธิ 4Q60 จะดีกว่าทั้ง Blomberg consensus และประมาณการของเรา แต่เรายังคงคำแนะนำถือ TOP และให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 95.00 บาท เราประเมินว่ากำไรสุทธิของ TOP จะลดลงใน 1H61 เนื่องจาก 1.ต้นทุน Murban crude premium เพิ่มขึ้นเป็น US$3.6/bbl ในเดือนมกราคม (จาก US$2.9/bbl ใน 4Q60) 2.บริษัทน่าจะมีกำไรจากสต๊อกใน 1Q61 น้อยลงมากหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงมาในขณะนี้ และ 3.spread ของผลิตภัณฑ์จากการกลั่นมักจะลดลงในไตรมาสที่สองจากอุปสงค์ที่ต่ำตามฤดูกาล จากปัจจัยลบระยะสั้นดังกล่าว เราจึงแนะนำให้ขาย TOP เพื่อทำกำไรไปก่อน
ความเสี่ยงจากกรณีที่ราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมีผันผวน
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี