nn ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมามีหลายฝ่ายได้จัดเวทีเสวนาเพื่อฉายภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี’61 ซึ่งแต่ละเวทีก็จะมีวิทยากรที่แตกต่างกัน...ล่าสุด..กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ...ได้จัดเวทีสัมมนา... “Krungsri Exclusive Economic and Investment Outlook 2018”…โดยได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายมาร่วมเวที...ประกอบด้วย นางพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง และ ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจฝ่ายวิจัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มร.สจ๊วต รัมเบิ้ล ผู้อำนวยการการลงทุนมัลติแอสเซท ฟิเดอร์ลิตี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล และ มร.ริคกี้ ทัง ผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์ มัลติแอสเซท ชโรเดอร์ อินเวสเมนท์ แมเนจเม้นท์ ....
ดร.ศรพล เห็นว่าเศรษฐกิจไทยความแข็งแกร่งและมีภูมิคุ้มกันจากความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก สะท้อนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปัจจุบันถือว่าเศรษฐกิจไทยได้ขยายตัวใกล้เคียงกับศักยภาพแล้ว อีกทั้งยังเป็นการขยายตัวที่มีคุณภาพ กล่าวคือเครื่องจักรต่างๆ ของ GDP ทั้งการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนภาคเอกชน การใช้จ่ายภาครัฐ และการค้าระหว่างประเทศ ขยายตัวดีพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2561 จะขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าปีก่อนหน้า
ขณะที่ ดร.สมประวิณ กล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตเต็มศักยภาพมากโดยปรับตัวดีขึ้นทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยเชิงปริมาณแสดงให้เห็นผ่านระดับการเติบโตของเศรษฐกิจสูงขึ้นและต่อเนื่อง ส่วนเชิงคุณภาพแสดงผ่านการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจยังมีการกระจายตัวไปทั่วทุกองค์ประกอบของเศรษฐกิจทั้งมิติด้านการใช้จ่ายและมิติภาคการผลิตอีกด้วย
สำหรับธุรกิจส่งออกดาวเด่นที่น่าสนใจลงทุนในปีนี้ นางพิมพ์ชนกกล่าวว่า ภาพการส่งออกกลุ่มสินค้าที่เติบโตโดดเด่น แบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่เติบโตตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า 2.สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ปิโตรเคมี เม็ดพลาสติก 3.สินค้า Internet of Things (IOT) และ 4.สินค้าในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมอนาคต หรือ S-Curves จากนักลงทุนต่างชาติ ส่วนตลาดส่งออกที่มีศักยภาพสำหรับไทยก็ยังคงเป็น จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา แต่ยังมีตลาดส่งออกอีกหลายประเทศที่เป็นโอกาสของไทยในการขยายออกไป เช่น อินเดีย จีน และยุโรป ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องเร่งส่งออกในตลาดเหล่านี้
ดร.ศรพลกล่าวว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะเพิ่มเติมศักยภาพของเศรษฐกิจไทยให้อยู่ในระดับสูงขึ้นอีก โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนา 10 อุตสาหกรรมอนาคต หรือ S-Curves เช่น รถยนต์ไฟฟ้า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการบิน หุ่นยนต์ เป็นต้น และได้ริเริ่มพัฒนาโครงการ Eastern Economic Corridor (EEC) หรือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เชื่อว่า EEC จะช่วยยกศักยภาพของเศรษฐกิจไทยให้กลับมาโชติช่วงชัชวาลดังเช่น โครงการ Eastern Seaboard ได้เคยช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา
ด้านนางพิมพ์ชนกยอมรับว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังต้องพึ่งพาต่างชาติอยู่มาก ดังนั้น การลงทุนในระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อการเชื่อมโยงฐานการผลิตและเสริมสร้างความแข็งแกร่งใหม่กับเศรษฐกิจประเทศไทย ลดการพึ่งพาต่างชาติหันมาพึ่งพาการผลิตและการบริโภคได้จากภายในประเทศพร้อมไปกับสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนฐานรากควบคู่ไป
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ ใหญ่ มร.สจ๊วต รัมเบิ้ล ผู้อำนวยการการลงทุนมัลติแอสเซท ฟิเดอร์ลิตี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนฟิเดลิตี้แนะนำให้นักลงทุนมีการกระจายการลงทุน เน้นการลงทุนในกองทุนที่มีความยืดหยุ่นในการเลือกหลักทรัพย์ และมีการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพในยามที่ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น รวมถึงเพิ่มการป้องกันความสี่ยงของตลาดหุ้นและค่าเงินโดยเฉพาะการลงทุนในเอเชียควรมีการปกป้องค่าเงินเพราะมีผลต่อผลตอบแทนมาก
พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี