nn กรณีสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม...แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์ โดยรัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ จะเปิดวงหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันเหล็กกล้าฯผู้ส่งออก ผู้ผลิตเหล็กในประเทศ และหน่วยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ไปแล้ว...แต่ของการหารือกลับทำให้น่าหวาดหวั่น...แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์จะรับรู้รับทราบข้อกังวลที่ว่า...จากมาตรการของสหรัฐจะทำให้เหล็กในตลาดโลกล้นทะลักเข้ามายังตลาดไทย....แต่รัฐมนตรีพาณิชย์กลับดูเฉยๆ กับปัญหา...เพราะรมว.พาณิชย์ท่านนี้...บอกว่าแม้จะพอมองเห็นเค้าลางปัญหา... แต่ยังจะไม่ออกมาตรการใดๆ ออกมาตอนนี้ เพราะยังต้องศึกษาผลกระทบให้รอบด้านเสียก่อน...อีกทั้งไม่มีท่าที่จะตอบโต้ใด...และขอรอท่าทีของประเทศอื่นเสียก่อนว่าจะตอบโต้สหรัฐอย่างไร....
ถ้า “หมุนตามทุน” จำไม่ผิด...แรกที่สหรัฐประกาศว่าจะตั้งกำแพงภาษีเหล็ก...กระทรวงพาณิชย์ก็บอกว่าจะกระทบทางตรงต่อไทยไม่มาก...!!ตัวเลขจากอุตสาหกรรมเหล็กของไทย...เราส่งออกเหล็กไปสหรัฐประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ...และรู้สึกว่าปี 2560 ตัวเลขการส่งออกก็เพิ่มจากปีก่อนราวๆ 170%...พูดง่ายๆ คืออนาคตกำลังสดใส....แต่มาในวินาทีนี้...ผู้นำเข้าจากสหรัฐแจ้งว่าขอชะลอการนำเข้าเหล็กจากไทยไปก่อนเพื่อรอดูความชัดเจนของมาตรการทางภาษีที่จะออกมาจากสภาคองเกรส....!!นึกไม่ออกว่าทำไม...กระทรวงพาณิชย์จึงยังมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหา....
นั่นเป็นแค่ตัวอย่างแรกที่ยกมาให้เห็นว่าทำไม “หมุนตามทุน” จึงกังขาในท่าทีของกระทรวงพาณิชย์...อีกประเด็นหนึ่งที่น่าเป็นห่วงกว่านี้คือ...กรณีที่เหล็กในตลาดโลกจะไหลทะลักเข้ามายังตลาดของไทย...อันนี้เพราะต้องยอมรับว่าหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียนหรือประเทศอื่นๆที่เขามีอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ....ประเทศไทยนั้นมี “อ่อนด้อย” ที่สุดในเรื่องการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ...
ที่ว่า...อ่อนด้อย...ไม่ใช่ว่าเราไม่มีเครื่องมือหรือกลไกที่จะหยิบมาใช้...แต่มาอ่อนด้อยตรงที่คนที่จะใช้เครื่องมือนั้นไม่กล้าที่จะตัดสินใจต่างหาก...!! อย่างที่บอกว่าเครื่องมือที่ไทยมีในมือนั้น...มีทั้งมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด(ภาษี AD)....ภาษีป้องกันการนำเข้าท่ีเพิ่มขึ้น
(เซฟการ์ด)...หรือแม้แต่การเก็บภาษีเซอร์ชาร์จ...ซึ่งเป็นมาตรการฉุกเฉินที่หยิบมาใช้ได้รวดเร็วหากเห็นว่ากำลังจะเกิดวิกฤติกับอุตสาหกรรมในประเทศ....
เครื่องไม้เครื่องมือเหล่านี้...ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำในโลกเสรีทั้งหลาย...เขาประกาศใช้กันไปหมดแล้วตั้งแต่เหล็กจีนออกมาอาละวาดในตลาดโลกเมื่อ 3-4 ปีก่อน...แม้กระทั่งประเทศในเอเชียและกลุ่มอาเซียนเองก็ประกาศตั้งกำแพงภาษีกันโครมๆ....ไม่เห็นมีใครเขาเหนียมอายหรือกลัวว่าจะโดน WTO ตำหนิ...เหมือนกับที่ กระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงพาณิชย์ ของไทยชอบยกเอามาอ้าง...
จริงแล้วเรื่องความเดือดร้อนของอุตสาหกรรมเหล็กไทย...ที่ถูกกระทำด้วยการค้าที่ไม่เป็นธรรมหลากหลายรูปแบบจากเหล็กนำเข้านั้น...ได้สะท้อนผ่านไปยัง...ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ของรัฐบาล...มาตั้งแต่ 2-3 ปีก่อนหน้านี้แล้ว...และทุกครั้งท่านก็พูดเหมือนเดิมว่าได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งดำเนินการแล้ว...และผลทางปฏิบัติก็เหมือนเดิมอีกเช่นเคยคือ....ไม่มีอะไรในก่อไผ่....ปริมาณเหล็กนำเข้ายังพุ่งพรวดๆ...แถมนำเข้าแบบใช้เล่ห์เหลี่ยมการหลบเลี่ยงภาษีอีกต่างหาก...
เปลี่ยนตัว...รมว.พาณิชย์มาแล้ว 3 คน...เช่นเดียวกันกับ รมว.อุตสาหกรรม ก็เปลี่ยนมาแล้ว 3 คน...ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นเลยในเรื่องนี้...!!ไหนๆ ก็เปลี่ยนมาบ่อยจนชินแล้วก็น่าจะลองเปลี่ยนอีกทีก็ได้นะ...เผื่อว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้นบ้างในช่วง “รัฐบาลขาลง” แบบนี้....
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี