บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้น บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์หรือ ANAN ความล่าช้าครั้งแรกเกิดจากประเด็นเรื่องงานก่อสร้างและใบอนุญาต ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อ ANAN ไม่สามารถโอนคอนโดสองโครงการได้ตามกำหนดใน 4Q60 คือโครงการ Ashton อโศก (6.7 พันล้านบาท) และ Venio สุขุมวิท 10 (860 ล้านบาท) ส่งผลให้ผลประกอบการงวด 4Q60 ออกมาน่าผิดหวัง อย่างไรก็ดี ANAN ระบุเมื่อต้นปีนี้ว่าความล่าช้าเป็นผลมาจากประเด็นเรื่องงานก่อสร้าง และใบอนุญาตที่อยู่อาศัย และบริษัทคาดว่าจะสามารถโอน Ashton อโศกได้ในปลาย 1Q61 ขณะที่ Venio สุขุมวิท 10 จะโอนได้ใน 2Q61 ดังนั้น
เราจึงเชื่อว่า ณ ขณะนั้น ความกังวลในตลาดและแรงขายที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่หนักเกินไป ถ้าหากว่า ANAN สามารถโอนสองโครงการนี้
ได้ตามที่บอกไว้
การโอนอาจจะล่าช้าออกไปอีก
อย่างไรก็ดี เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว คุณชานนท์ เรืองกฤตยา CEO ของ ANAN ออกมาชี้แจงว่า ANAN อาจจะต้องเลื่อนกำหนดการโอนโครงการ Ashton อโศกออกไปอีก หลังจากที่มีโจทก์สองรายยื่นฟ้องว่า กทม. และรฟม. ว่าไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องในการอนุญาตให้ ANAN ใช้ที่ดินเพื่อเป็นทางเข้า-ออกโครงการ ดังนั้น แม้ว่างานก่อสร้างของโครงการจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ กทม. ก็ยังไม่สามารถออกใบอนุญาตที่อยู่อาศัยเพื่อใช้อาคารเป็นที่อยู่อาศัยได้ เนื่องจากกรณีฟ้องร้องที่เกิดขึ้นกับทั้ง กทม. และ รฟม. ส่งผลให้ ANAN ยังไม่สามารถโอนโครงการให้ลูกค้าได้ ดังนั้น จึงคาดว่าการโอนโครงการ Ashton อโศกน่าจะต้องเลื่อนไปถึง 4Q61 เป็นอย่างเร็วที่สุด ขณะที่ด้านบริษัทชี้แจงแนวทางการดำเนินการเป็น 2 กรณีโดย ทางออกแรกคือ กทม. และ รฟม. สามารถคลี่คลายคดีกับโจทก์ทั้งสองได้ภายใน 4Q61 ซึ่งจะทำให้ ANAN เริ่มโอนโครงการ Ashton อโศกได้ในช่วงปลาย 4Q61 ส่วนทางออกที่สองก็คือ ANAN ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลในเดือนมีนาคม 2561 และ กทม. ออกใบอนุญาตที่อยู่อาศัยภายใน 60 วัน ซึ่งจะเปิดทางให้ ANAN สามารถโอนโครงการ Ashton อโศกได้ใน 2H61
ในมุมมองของเรา เราเชื่อว่าทางออกทั้งสองทางยังไงก็จะมีผลกระทบกับประมาณการกำไรปี 2561 เพราะบริษัทไม่สามารถโอนโครงการได้ภายใน 1H61 เหมือนที่บริษัทประกาศเอาไว้เมื่อต้นปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่อาจจะต้องเลื่อนโอนโครงการออกไปถึงปี 2562 ถ้าหากกระบวนการของศาลยืดเยื้อออกไป ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าการยกยอดโอนของโครงการ Ashton อโศกทั้งโครงการ ออกจากประมาณการของเราจึงน่าจะเหมาะสม ซึ่งจะฉุดให้ประมาณการกำไรปี 2561 ของเราลดลง 27% และฉุดให้ราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 5.3 บาท อิงจาก PER เฉลี่ยระยะยาวที่ 10x แต่เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตยังแข็งแกร่ง ราคาตลาดก็ยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกมาก เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ แต่มองว่าราคาหุ้นอาจจะฟื้นตัวได้ช้าเนื่องจากความเชื่อมั่นต่อบริษัทค่อนข้างเปราะบางมาก
ปัจจัยเสี่ยงจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคแย่ลง และภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี