ประเทศไทยมีรถไฟฟ้าเป็นขนส่งมวลชนระบบราง ใช้ในกรุงเทพมหานคร มานานกว่า 20 ปี สายแรกเป็นรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS Skytrain) เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัด เนื่องจากปริมาณรถยนต์เพิ่มขึ้นมากในแต่ละปี
รถไฟฟ้าบีทีเอสและสายๆ อื่นในปัจจุบัน ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในเมืองหลวงและช่วยลดปัญหาจราจรได้เป็นอย่างดี แต่อาจไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนบางกลุ่มตามหลักสากล เช่น ทางขึ้นลง ลิฟต์ขึ้นลง ป้ายบอกทางสำหรับคนพิการ หรือเจ้าหน้าที่จำนวนที่เพียงพอเพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการ
เมื่อไม่นานมานี้ได้เกิดกรณีคนพิการ นั่งวีลแชร์คนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักรณรงค์เพื่อสิทธิของคนพิการ ได้ทุบกระจกประตูลิฟต์สถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก จนแตกเสียหาย เนื่องจากประตูลิฟต์
ถูกล็อก เหตุที่ประตูลิฟต์ถูกล็อกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้โดยสารบางคนที่มาใช้บริการแล้วไม่ซื้อตั๋วโดยสาร เพราะลิฟต์ดังกล่าวสามารถขึ้นไปถึงบริเวณชานชาลาโดยไม่ต้องผ่านช่องจำหน่ายตั๋ว ในขณะเดียวกันลิฟต์ดังกล่าวออกแบบมาให้บริการเฉพาะผู้พิการที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องจ่ายค่าโดยสาร แต่เวลาจะใช้ลิฟต์ต้องกดปุ่มเรียกเจ้าหน้าที่เพื่อให้มาอำนวยความสะดวก จึงเป็นความไม่สะดวก
ก่อนเกิดเหตุคนพิการทุบประตูลิฟต์ เจ้าหน้าที่ประจำสถานีได้ขอดูบัตรประจำตัวผู้พิการ และให้เซ็นชื่อพร้อมกรอกข้อมูลส่วนตัว แต่คนพิการมองว่า เป็นการเลือกปฏิบัติ ทำให้เสียเวลา เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ทั้งที่ลิฟต์ควรติดตั้งไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการ ต่อมาหลังทุบประตูลิฟต์แล้ว ได้นำภาพที่ตัวเองทุบประตูลิฟต์มาโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย เพื่อเรียกร้องสิทธิให้กับคนพิการ
การใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนพิการ ที่ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับคนทั่วๆ ไป หลักการนี้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบัญญัติไว้ว่า การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคล ไม่ว่าด้วยเหตุความแตกต่างเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนาการศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือเหตุอื่นใด จะกระทำมิได้
ก่อนหน้านี้เมื่อปี พ.ศ.2557 กลุ่มคนพิการเคยฟ้องร้องกรุงเทพมหานคร และบีทีเอส ที่ไม่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการในสถานีรถไฟฟ้า โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร และบีทีเอส จัดให้มีลิฟต์สำหรับคนพิการทั้ง 18 สถานี ที่ยังไม่มี และต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน1 ปี หลังมีคำพิพากษา แต่ถึงปัจจุบันก็ยังไม่สร้างตามคำพิพากษากระทั่งมีเรื่องทุบประตูลิฟต์เกิดขึ้น
ปัจจุบันมีคนพิการทุกประเภทเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส วันละประมาณ 2,800 คน ถือเป็นจำนวนที่มากพอสมควรแบ่งเป็นผู้พิการที่นั่งรถเข็นวันละประมาณ 20 คัน ซึ่งต้องใช้ลิฟต์สำหรับขึ้นลง แม้ทางรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ติดตั้งลิฟต์สำหรับรถเข็นคนพิการ (Stair Lift) ไว้หลายสถานี และติดตั้งเข็มขัดล็อกวีลแชร์(Wheel Chair Belt) ไว้ในขบวน แต่ว่าโดยภาพรวมของการใช้รถไฟฟ้าในชั่วโมงเร่งด่วน คนจะเบียดเสียดกันแน่นมากการเดินทางของคนพิการย่อมลำบากและไม่สะดวก
โดยสภาพความจริงสังคมไทยหลายๆ สถานที่ ยังไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนพิการมากนัก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคนกลุ่มนี้มีจำนวนน้อย หรืออาจเพราะคิดว่าสร้างแล้วอาจไม่มีโอกาสได้ใช้ โดยคิดว่าคนพิการยังเป็นภาระของสังคม ทั้งที่ในความเป็นจริง คนพิการส่วนหนึ่งยังทำงานในองค์กรของรัฐหรือเอกชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นนักกีฬาสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันระบบขนส่งมวลชนสาธารณะพยายามปรับปรุงรูปแบบเพื่อให้รองรับกับคนพิการมากยิ่งขึ้น เช่น รถเมล์เอ็นจีวีที่เพิ่งนำมาใช้ล่าสุด มีระบบปรับลดระดับความสูงของตัวรถ และทางลาดแบบพับเก็บ เพื่อรองรับและอำนวยความสะดวกให้คนพิการ ภายในตัวรถยังมีที่พับเก็บ หรือล็อกวีลแชร์ของคนพิการด้วย ซึ่งต่างจากรถเมล์รุ่นก่อนๆ ที่ใช้มานาน 10-20 ปี เวลาขึ้นลงลำบาก แม้กระทั่งคนปกติเองยังพลัดตกอยู่บ่อยครั้ง
สำหรับเรื่องการทุบประตูลิฟต์ของคนพิการนั้น ในทางกฎหมายมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เพราะแม้จะเป็นคนพิการ แต่ไม่ได้มีกฎหมายยกเว้นโทษให้แต่ประการใด อีกทั้งกระทำโดยรู้สำนึก ขณะเดียวกันประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นว่า ประตูลิฟต์ต้องได้รับความเสียหายการจะประท้วงหรือประกาศให้สังคมรับรู้ถึงความไม่เท่าเทียมกันยังมีช่องทางอื่นๆ ที่สามารถกระทำได้ แต่บางทีก็ไม่ทันตอบสนองต่อความต้องการจึงต้องใช้วิธีการรุนแรงในการแก้ปัญหา
สังคมไทย ถ้าไม่เกิดเรื่องพิพาทหรือเป็นข่าวเป็นคราวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ หรือโด่งดังในโลกโซเชียลมีเดียคนมักจะไม่ตื่นตัวหรือเห็นความสำคัญของเรื่องนั้นๆ
ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดตั้งแต่การออกแบบระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยไม่คำนึงถึงคนพิการ เมื่อมีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดแล้ว ยังไม่ให้ความสำคัญ แก้ไขสถานีให้ถูกต้อง หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้อง จึงควรเร่งรัดให้รถไฟฟ้าบีทีเอสปฏิบัติตามคำพิพากษา หากยังไม่ดำเนินการต้องมีบทลงโทษ
ในอนาคตอันใกล้ รถไฟฟ้าจะครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพมหานครทั้งหมด จึงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการได้ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี