nn กระแสคัดค้านการออกมาต่อต้านแนวคิดขยายเวลาผ่อนชำระเงินคลื่น 900 MHz ของ 2 ผู้ประกอบการโทรคมนาคม ทั้งบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เวส เนทเวิร์ค หรือ AWN (Advance Wireless Network) และบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด หรือ TUC (Truemove H Universal Communication) ยังแรงจนฉุดไม่อยู่....ด้วยข้ออ้างกลัวประเทศชาติเสียประโยชน์...ล่าสุด...คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35..และเครือข่ายตรวจสอบภาคประชาชน... ต้องจัดเวทีเสวนาหัวข้อ “ม.44 อุ้มค่ายมือถือ : กสทช.-เอกชน มีเงินทอนหรือไม่” ...โดยในวงเสวนา มี นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีตสว.กทม. นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ อดีต กสทช. นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต สปท. เเละนายมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย)....
!! ถ้าสังคมตั้งสติมองอย่างเป็นกลาง...ฉุกคิดไหมว่าทำไม...วงเสวนาที่จัดขึ้นเป็นการวิพากษ์ฝ่ายเดียว....ไม่มีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) และ 2 ค่ายมือถือ...มาชี้แจง หรือให้ข้อมูลข้อเท็จจริงแต่อย่างใด...
ในเวทีเสวนาหยิบยกข้ออ้างสารพัดมาคัดง้างแนวคิดของ กสทช. จนลืมมองถึงข้อเท็จจริงและอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงว่า สิ่งที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และคณะรัฐมนตรี... เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ หวังต่อลมหายใจให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้...ใช่หรือไม่....!! ส่วนประเด็นเรื่องดอกเบี้ย...ที่ผู้ประกอบการทั้ง 2 รายต้องจ่าย 1.5% ก็เป็นไปตามดอกเบี้ยพื้นฐานของระบบการเงินไทยขณะนี้...หากจะต้องให้ผู้ประกอบการแบกรับภาระดอกเบี้ย 15%...ผู้ประกอบการต้องแบกรับเงินดอกเบี้ยมากกว่าปีละหมื่นล้านบาท ในที่สุดก็ต้องผลักภาระไปให้ผู้บริโภคต้องเสียค่าใช้จ่ายจากต้นทุนของผู้ประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น...
การยืดเวลาผ่อนชำระ หรือการขยายเวลา คลื่น 900 ของผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย...ไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย...ปฏิเสธการจ่ายเงิน... รัฐไม่ได้เสียประโยชน์อย่างที่หลายฝ่ายออกมาตื่นตูมตีตนไปก่อนไข้... การขอผ่อนชำระครั้งนี้ จะทำให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย มีเงินทุนหมุนเวียนนำไปพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่จะมีความจำเป็นในอนาคต...ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
เปิดใจกว้างพิจารณาจากข้อเท็จจริง จะพบว่า การจ่ายค่าประมูลคลื่นงวดสุดท้าย ที่ผู้ประกอบการโทรคมนาคมต้องจ่ายนั้น ตามเงื่อนไขของ TOR การชำระค่าประมูลคลื่นความถี่ของทั้ง 2 อุตสาหกรรมทั้งโทรคมนาคม และทีวีดิจิทัล เหมือนกันคือมีการให้ชำระแบ่งเป็น 4 งวด โดย 3 งวดแรกจะเป็น 100% ของราคาตั้งต้นการประมูล reserved price ที่จะต้องจ่าย 3 งวด 50:25:25/งวดสุดท้ายคืองวดที่ 4 จะเป็นการชำระส่วนเกินของราคาตั้งต้นการประมูล ซึ่งในส่วนของดิจิทัลทีวี งวดที่ 4 จะเป็น 2 เท่าของราคาตั้งต้นการประมูล ขณะที่ โทรคมนาคม งวดที่ 4 สูงเป็น 6 เท่าของราคาตั้งต้นการประมูล…
ถ้าไม่ลืมกัน... การประมูลคลื่น 900 MHz เมื่อช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา พบว่า ราคาการประมูลคลื่น 900 MHz ของไทย แพงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชีย และอันดับ 2 ของโลก...ด้วยเหตุ...ราคาที่บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ เสนอประมูลนั้น 75,654 ล้านบาท..สูงกว่าราคาตั้งต้นกว่า 6 เท่า...สุดท้าย “แจส” ก็ต้องปล่อยคลื่นไป...ถูกปรับเพียงแค่ 600 ล้านบาทเท่านั้น...แต่ผู้ประกอบการโทรคมนาคม 2 ราย...แบกต้นทุนกันหลังแอ่น...!! แปลกดีไม่เห็น..มีองค์กรอิสระใดออกมาทำอะไร...
ไม่แปลกในสังคมประชาธิปไตย...ที่จะมีเวทีแสดงความคิดเห็น...แต่ถ้าเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องได้อธิบายความกันอย่างรอบด้าน...ตัดสินกันที่เหตุผลและข้อมูลจากทุกฝ่าย...สังคมก็จะได้ประโยชน์..เวทีแสดงความคิดเห็นนั้นมากกว่า...
พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี