หลายปีมานี้ … แนวคิดการทำงานเป็นนายตัวเองกำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะการลาออกไปเป็นผู้ประกอบการ หรือทำงานอิสระนั้น เป็นอะไรที่ฮิตเอามากๆ
ยิ่งเอาเรื่องของรายได้ที่มากกว่างานประจำหลายเท่าตัว และเวลาที่สามารถบริหารจัดการได้เองมาขยี้ผสมด้วยแล้วละก็ ยิ่งไปกันใหญ่เลย ถึงขนาดมีวลีโดนใจ ฮิตติดปากใครหลายคนว่าให้ “ลาออกซะ … ถ้าอยากรวย” หรือ “ลาออกซะ …ถ้าอยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง”
โดยส่วนตัว ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย
เพราะถ้าใครสักคนอยากลาออก เพราะเบื่องานไม่อยากทนทำงานที่ไม่ชอบ ผมในฐานะผู้ประกอบการคนหนึ่ง กล้าบอกได้เลยว่า เถ้าแก่นี่ต้องทนทำอะไรที่ไม่ชอบมากกว่าลูกจ้างอีกนะ เบื่อขึ้นมา นึกจะไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นธุรกิจเรา
หรือถ้าอยากลาออก เพราะเบื่อเพื่อนร่วมงาน เบื่อเจ้านายเถ้าแก่อย่างผมนี่มีเรื่องให้เบื่อได้หมดเลยนะ ทั้งลูกน้อง ลูกค้า ผู้ส่งมอบ Outsource ภาครัฐ ฯลฯ … ครบเลย
หรือถ้าอยากลาออก เพราะเงินน้อย ผมก็ต้องบอกว่าไม่มีใครรับประกันนะ ว่าออกมาทำฟรีแลนซ์ หรือทำธุรกิจส่วนตัวแล้วจะได้ตังค์เยอะ ยิ่งถ้าเป็นผู้ประกอบการ ช่วงตั้งไข่กิจการนี่อาจนั่งนับเงินกันเหงาเลยหละ
โดยสรุป ผมมองว่าถ้ามีลู่ทาง มีเป้าหมาย มีแผนการชัดเจน ก็ลุยครับ ไม่ว่ากัน แต่ถ้ายังไม่ชัดเจน ค่อยๆ คิด ค่อยๆวางแผนน่าจะดีกว่าครับ
ที่กล้าพูด กล้าสอน เพราะผมเองเป็นคนหนึ่งที่เริ่มต้นชีวิตด้วยการทำงานประจำ แล้วค่อยๆ ก้าวขาออกจากสนามแข่งหนู (Rat Race) มาสู่ชีวิตฟรีแลนซ์ เจ้าของกิจการ และนักลงทุน จนมีอิสรภาพทางการเงินได้จนถึงทุกวันนี้
ผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนรักความเป็นอิสระ และอยากควบคุมชีวิตตัวเอง ถ้าเอาไมค์จ่อปาก ถามคนร้อยคน ผมเชื่อว่าแทบจะทุกคนที่ฝันอยากจะทำงานของตัวเอง และอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น
การมีเป้าหมายในชีวิตเป็นเรื่องที่ดี แต่การจะทำให้เป้าหมายเป็นจริงนั้น ต้องอาศัย “แผนการ” ที่ดี การใช้แต่เพียงความอยากได้ ความอยากมี นั้นไม่พอหรอกครับ
ใครที่วางแผนจะลาออกจากงานมาทำกิจการส่วนตัว ผมแนะนำให้เริ่มฝึกฝนตัวเองให้เป็นมนุษย์ 300 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ก่อนครับ
100 เปอร์เซ็นต์แรก … ตั้งใจทำงานประจำที่กำลังทำอยู่ให้ดีเยี่ยม สร้างคุณค่าและเรียนรู้จากงานตัวเองให้มากที่สุด ถ้าแค่เป็นลูกจ้างรับผิดชอบงานแค่อย่างเดียว ยังทำให้ดีไม่ได้ ก็อย่าคิดอะไรไปไกลนักเลยครับ เดี๋ยวเหนื่อย
100 เปอร์เซ็นต์ที่สอง … แบ่งเวลาให้กับ “งานสร้างชีวิต”วาดภาพให้ชัดว่าคุณจะเป็นใครในอีก 5 ปี หรือ 10 ปีข้างหน้า แผนการสู่อิสรภาพทางการเงินของคุณ คือ อะไร คุณจะต้องทำอะไรบ้าง เมื่อไหร่ ยังไง จากนั้นก็ค่อยๆ ต่อจิ๊กซอว์ของภาพนั้นทุกวัน ทุกเดือนๆ ทุกปี
ในช่วงที่ยังทำงานประจำ ผมแบ่งเวลาวันเสาร์ช่วงเช้าไปเดินดูอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ตอนลาออกจากงานประจำผมมีบ้านเช่า 3 หลัง คอนโดให้เช่า 2 ห้อง
ในช่วงที่ยังทำงานประจำ ผมแบ่งเวลาสร้างธุรกิจส่วนตัวนอกเวลางาน และทำกำไรจากมันได้โดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย ตอนลาออกจากงานประจำ ผมมีธุรกิจที่ปรึกษาโรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจการเกษตรของตัวเอง
ในช่วงท่ี่ยังทำงานประจำ ผมก็ยังมีเวลาศึกษาและลงทุนในหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐานได้ และมีพอร์ตหุ้นเล็กๆ 7 หลักได้ตอนเลิกทำงาน
ทั้งหมดที่เล่ามาข้างต้น ผมใช้เวลาทำงานสร้างมัน (สร้างชีวิต) เพียง 5 ปี หลังจากที่เป้าหมายและแผนการชัดเจน
100 เปอร์เซ็นต์สุดท้าย … อันนี้สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะมันคือ การแบ่งเวลาให้กับครอบครัว สร้างกิจกรรม และสร้างโอกาสการเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อจะได้มีความสุขตลอดการเดินทางสู่ความมั่งคั่ง ไม่ต้องรอให้รวยถึงค่อยมีความสุข
สำหรับผมแล้ว ความมั่งคั่งหรือความสำเร็จทางการเงินนั้น มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า คุณทำงานประจำ หรือไม่ได้ทำงานประจำอยู่หรอก แต่มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเองนั่นแหละว่าอยากเป็นใคร และมองเห็นไหมว่าจะเป็นอะไรในอีก 5 ปี หรือ 10 ปี ต่อจากนี้ และเริ่มต้นลงมือทำวันนี้อย่างไร
ถ้าลาออกจากงานประจำด้วยฝันกลางวันหรือฝันเฟื่อง ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีแผนการมารองรับ ผมรับประกันเลยว่าการลาออกของคุณจะเป็นการฆาตกรรมทางการเงิน (แทนที่จะรวย) และความสุขของตัวเองได้อย่างไม่ยาก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี