nn ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมาย...เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ใน วันที่ 16 พฤษภาคม2561 ...มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี ต่อไปอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ตรึงดอกเบี้ยนโยบายในระดับนี้มาแล้วกว่า 2 ปี...
คนที่ไม่ได้อยู่ในสายการเงิน...อาจสงสัยบ้างว่าทำไมเรากล้าสวนกระแสทิศทางของดอกเบี้ยโลกที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น....คืออย่างนี้ครับ...กนง.นั้นประเมินว่า...เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และดีกว่าที่ประเมินไว้ ...ก็จริงอยู่เพราะว่าได้แรงหนุนจากการส่งออกและท่องเที่ยวที่ขยายตัวตามเศรษฐกิจโลก....แต่ว่า ยังมีประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญต้องขีดเส้นใต้บรรทัดไว้ว่า...การใช้จ่ายในประเทศที่ยังขยายตัวในระดับต่ำ เพราะกำลังซื้อยังไม่กระจายตัวไปสู่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเท่าที่ควร ขณะที่การจ้างงานยังกระจุกตัวในบางกลุ่มอุตสาหกรรม และภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่ยังมีอยู่ในอัตราที่สูงและความสามารถในการชำระหนี้ก็ยังอยู่ในระดับต่ำด้วย...
ส่วนตัวเร่งอื่นๆ ที่จะมากดดันให้ต้องขึ้นดอกเบี้ยนั้นก็ยังไม่มี...เช่น..อัตราเงินเฟ้อยัง...ที่ตอนนี้ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบช้าๆ...และเงินเฟ้อที่มาจากอุปสงค์ ในประเทศ...ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ...แม้ว่าราคาน้ำมันที่ตอนนี้ปรับเพิ่มขึ้น... แต่ราคาอาหารสดที่อยู่ในระดับต่ำ...อัตราเงินเฟ้อที่แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นก็ขึ้นแบบอย่างช้าๆ....นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ...
นอกจากนี้...กนง.มองว่าภาวะตลาดการเงินโดยรวมยังคงไม่ผันผวนจนผิดปกติ อัตราแลกเปลี่ยนก็เคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่ต้องแสดงความกังวลใจใดๆ...เพราะดูแล้วพบว่า เงินบาทเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ก็ปรับตัวอ่อนค่าลงขณะที่เงินบาทเทียบสกุลเงินของประเทศคู่ค้าและคู่แข่ง...ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ... ส่วนภาวะการเงินด้านอื่นๆ ...ก็ต้องบอกว่า สภาพคล่องในระบบยังอยู่ในระดับสูง.... อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำ.... สินเชื่อขยายตัวเพิ่มขึ้น และระบบการเงินโดยรวมยังคงมี เสถียรภาพ
เอาล่ะ...ที่นี้คงมีคำถามว่าแล้วดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะอยู่ในระดับนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน...คำตอบที่แน่นอนนั้นคงไม่มีใครกล้าฟันธง...แต่หากเงื่อนไขยังเหมือนกับที่กล่าวไว้ข้างต้น...ตลาดเงินบ้านเราก็คาดกันว่า...อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะนิ่งอยู่นะดับ 1.5% ไปจนสิ้นปีนี้...
เว้นเสียแต่ว่า...หากเศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่องและช่องว่างการผลิตแคบลง รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมี แนวโน้มทรงตัวภายในกรอบเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน...และหากว่า เกิด ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน ที่เพิ่มสูงขึ้นจนสังเกตได้อย่างชัดเจน และพบปัญหาเป็นวงกว้างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยมาตรการกำกับดูแลความเสี่ยงเชิงระบบ....ก็อาจเป็นไปได้ว่า...มีโอกาสที่ กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้ง ในช่วงปลายปี....
แต่ถ้าจะถามว่ามีโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบเร็วๆ แรงๆ หรือไม่นั้น...อันนี้เชื่อว่าทุกคนคงกล้าฟันธงว่าไม่มีโอกาสจะเป็นเช่นนั้น...เพราะ กนง. ยังให้น้ำหนักในประเด็น...ที่ว่า การขึ้นดอกเบี้ย นโยบายจะต้องไม่ส่งผลด้านลบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ...
พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี