บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC บริษัทตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตใหม่อีก 300-350 MW จากการขยายกำลังการผลิตของเครือ และอุปสงค์การใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจาก PTT Global Chemical (PTTGC)* และ Thai Oil (TOP)* ซึ่งการขยายกำลังการผลิตเป็นไปตามที่เราคาดไว้อยู่แล้ว และเราได้รวมกำลังการผลิตใหม่นี้ไว้ในประมาณการของเราแล้ว โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตใหม่ 345MW เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยตอบสนองต่ออุปสงค์การใช้ไฟฟ้าของเครือ ทั้งนี้ แผนขยายกิจการของ GPSC จะใหญ่ขึ้นในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของกำไรในระยะยาว ในระยะต่อไป ยิ่งมีการขยายกำลังการผลิตของเครือมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่ม upside ให้กับประมาณการของเรา
นอกจากการขยายกิจการของเครือแล้ว เราคาดว่าอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากภาคอุตสาหกรรม, การขยายกิจการในต่างประเทศ และ ความสำเร็จของการพัฒนาธุรกิจ battery storage ก็ยังจะเป็นปัจจัยกระตุ้นของบริษัทด้วย อุปสงค์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากผู้ใช้ไฟในภาคอุตสาหกรรมตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และในพื้นที่จังหวัดระยองจะเป็นโอกาสสำหรับการเติบโตในประเทศ ขณะที่ บริษัทก็มองเห็นโอกาสสร้างการเติบโตในประเทศเมียนมา (โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม) และในลาว (โรงไฟฟ้าพลังน้ำ)
นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีของ 24M เพื่อที่จะผลิตแบตเตอรี่ให้ได้ราคา $100/MWh ในเฟสแรก 100MWh จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืนยันความสำเร็จของโครงการนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของโครงการเหล่านี้ยังไม่ชัดเจนและกระบวนการพัฒนายังต้องอาศัยเวลา ดังนั้น เรายังไม่ได้รวมโครงการนี้ไว้ในประมาณการของเรา
เราคาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะน่าสนใจในไตรมาสที่สามนี้เนื่องจากบริษัทจะรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการ IRPCCP ทั้งสองเฟสเต็มไตรมาส และยังมีรายได้จากเงินปันผลของ RPCL ซึ่งคาดว่าของทั้งปี FY61 จะอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ถึงแม้ว่าโครงการ IRPCCP จะมีส่วนช่วยหนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง YoY ใน 2Q61 ด้วย แต่เราคาดว่ากำไรจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย QoQ เนื่องจากไม่มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาในระบบ
เรายังคงแนะนำให้ขาย GPSC และให้ราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 59.00 บาท ถึงแม้เราจะคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ GPSC ในปี FY61 จะโตถึง 29.9% แต่ราคาหุ้นปัจจุบันสูงเกินราคาเป้าหมายของเราไปแล้วถึง 24% ดังนั้น จึงมองว่าปัจจัยที่จะทำให้หุ้นตัวนี้กลับมาน่าสนใจอีกครั้งจะอยู่ที่ปัจจัยกระตุ้นต่างๆ ในข้างต้น
ปัจจัยเสี่ยงกรณีที่มีการปิดโรงไฟฟ้านอกแผน และเกิดความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี