nn ในที่สุด การเตรียมจัดประมูลคลื่น 1800 MHZ ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ในเดือนสิงหาคม 2561 ถึงกับล้มไม่เป็นท่า หลังผู้ประกอบการโทรคมนาคม 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ ทั้ง เอไอเอส ดีแทค และ ทรู ประกาศชัดเจน ไม่ขอเข้าร่วมประมูลคลื่น 1800 MHz ด้วยเหตุผล มีคลื่นเพียงพอแล้ว ประกอบกับราคาประมูลสูงเกิน...
สิ่งที่เกิดขึ้น พังครืนล้มเป็นโดมิโน่ ขยายเป็นวงกว้าง เพราะ นอกจากจะทำให้รัฐเสียหายประมาณแสนล้านบาท เนื่องจากการประมูลคลื่น 1800 MHz ครั้งนี้ กระทรวงการคลังมีหนังสือถึง กสทช. ว่า ขอให้จัดประมูลและนำส่งรายได้จากการประมูลภายในปี 2561 ด้วย โดยกระทรวงการคลังประมาณการรายได้จากสมมุติฐานว่าคลื่นทั้ง 45 MHz จะขายหมดและผู้ชนะการประมูลชำระเงินงวดแรกร้อยละ 50 ภายในเดือนกันยายนนี้ เมื่อไม่มีผู้เข้าประมูล ประมาณการรายได้ก้อนนี้จึงพลาดเป้าไปหลายหมื่นล้านบาท
สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยไปสู่ยุค 5G ผลเสียตกไปอยู่กับประชาชนไทย ที่ยังไม่มีโอกาสได้ใช้ ระบบ 5G ที่ทั่วโลกเขาเดินนำหน้าไปก่อนแล้วแม้กระทั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว....
ผลเสียที่เกิดขึ้น ใครจะรับผิดชอบ โดยเฉพาะนักวิชาการที่มีอคติในใจ ที่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ถึงประเด็นการยืดชำระค่างวดใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคม คลื่น 900 MHZ ให้ผู้ประกอบการ 2 ราย ทั้ง บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เวส เนทเวิร์ค หรือ AWN (Advance Wireless Network) และ บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิกเคชั่น จำกัด หรือ TUC (Truemove H Universal Communication) โดยขอผ่อนผันการชำระค่างวดเงินประมูลคลื่นความถี่จากเดิม ต้องจ่ายงวดที่ 4 เป็นงวดสุดท้ายในปี 2563 เป็นทยอยจ่ายออกไปอีก 5 งวด จนถึงปี 2567 นั้น หากรัฐบาลยื่นมือมาช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย รัฐไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครทั้งสิ้น แต่ช่วยเหลือให้ธุรกิจโทรคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้ และรัฐไม่ได้โง่อย่างที่ผู้มีอคติในใจออกมาคัดค้าน โดยผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน
หากพิจารณาจากข้อเท็จจริง การประมูลคลื่น 900 MHZ เมื่อช่วงปลายปี 2558 พบว่า ราคาการประมูลคลื่น 900 MHZ ของไทย สูงเกินความเป็นจริง แพงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชีย และหากเทียบกับทั่วโลก แพงที่สุดจัดอยู่ในอันดับสอง รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาที่บริษัท แจ๊ส โมบาย บรอดแบรนด์ เสนอประมูลนั้น 75,654 ล้านบาท ถือเป็นราคาเทียมที่สูงกว่าราคาตั้งต้นกว่า 6 เท่า เป็นราคาประมูลที่สูงเกินความเป็นจริงและเป็นสถิติโลก...โดยกลุ่มแจ๊สใช้วิธีทิ้งคลื่น ไม่ยอมชำระค่าคลื่นให้ กสทช. แต่ถูกปรับเพียงแค่ 600 ล้านบาทเท่านั้น และเอกชนทั้ง 2 รายต้องก้มหน้ารับกรรม...
หากรัฐบาลใจแข็ง ยอมออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย คือ เอไอเอสกับทรู รัฐจะไม่เสียเปรียบ เพียงแต่เลื่อนการชำระค่าใบอนุญาตออกไป และภาคเอกชนทั้ง 2 ราย พร้อมจ่ายเอกเบี้ยในอัตราของธนาคารกลาง คือแทนที่จะเป็นหนี้ธนาคารเอกชน มาเป็นหนี้รัฐแทนที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องส่งเสริมซึ่งกันและกันเพราะคนที่ได้รับประโยชน์ คือประชาชน และประเทศชาติ
ในขณะเดียวกันหากเอกชนทั้ง 2 ราย ได้รับการเยียวยาจะได้นำเงินมาพัฒนาเทคโนโลยีใหม่โดยเฉพาะที่ประเทศไทยจะต้องไปสู่ 5G และ ยังสามารถเข้าไปร่วมประมูล 1800 ได้ แต่เมื่อไม่ได้รับการเยียวยาเอกชนทั้ง 2 ที่ต้องมีภาระจากราคาเทียม ที่เป็นการประมูลคลื่น 900 MHZ ที่สูงเกินจริงดังนั้น จึงไม่เข้าประมูลผลที่ตามมา คือรัฐเสียหายมากกว่าตามที่ กสทช.ออกมาก้มหน้ายอมรับ…ส่วนค่ายดีแทค ได้สร้างเกราะป้องกันไว้ตั้งแต่แรก ด้วยการไปทำสัมปทานคลื่น 2300 กับ TOT ก่อนหน้านี้ ทำให้มีคลื่นที่จะสามารถทำกิจกรรมต่อไปได้
ท่ามกลางที่ประเทศไทยกำลังเร่งสร้างความเชื่อมั่นในสายตาประชาคมโลก ภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ถือเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยนำพาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ทุกฝ่ายต้องยอมลดอคติในใจ และหันมามองถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ โดยเฉพาะ ภาครัฐ ต้องเร่งหามาตรการช่วยเหลือภาคเอกชนที่เปรียบเป็นฟันเฟืองช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เพราะถ้าหากรัฐบาลยังละล้าละลัง อีกไม่นานประเทศไทยคงต้องถึงยุคถอยหลังลงคลองอย่างแน่นอน !!!!!!!!
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี