nn เป็นกระแสดราม่าอยู่กัน 1-2 สัปดาห์...กรณี...ที่ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง กรณีที่บริษัทในเครือ เอไอเอส ได้นำสิทธิการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เผยแพร่ผ่านแอพ AIS Play บนมือถือโดยไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และ FIFA ล่วงหน้า และศาลได้มีคำสั่งให้ AIS Play ยุติการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2561 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป...จนกระทั่ง…เครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (สทช.)...ต้องยื่นหนังสือถึง... คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)…เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา...และทวงถามต่อ กสทช.ว่าอย่างนี้..ถือว่า กสทช.เลือกปฏิบัติหรือไม่...เพราะมหกรรมฟุตบอลโลกน่าจะอยู่ในข่ายที่ใช้กติกา “มัสต์ แคร์รี่”...
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา...นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้เชิญตัวแทนจาก ทรูฯ มาหารือข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ปรากฏว่า ทรูฯ ยืนยันว่าไม่ได้ห้าม AIS Play Box ซึ่งให้บริการผ่านกล่องอินเตอร์เนต ถ่ายบอลโลก แต่สิ่งที่ไปร้องขอต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญานั่น คือ การให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น AIS Play ที่ให้บริการบนสมาร์ทโฟนนั้นไม่สามารถทำได้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก จึงขอให้เอไอเอส เปิดให้บริการตามปกติ...
ด้าน เอไอเอส ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการตามที่ กสทช. มีประกาศเรื่อง กฎ Must Have ได้กำหนดรายการโทรทัศน์ 7 ประเภทที่ต้องออกอากาศผ่านฟรีทีวี ได้แก่ การแข่งขันกีฬาซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, กีฬาโอลิมปิก และการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นต้น...และที่ เอไอเอส เห็นว่าสิ่งที่ต่อสู้นั้นคือการให้กสทช. บังคับใช้หลักเกณฑ์ตามประกาศมัสต์ แคร์รี่ และมัสต์แฮฟ สำหรับรายการถ่ายทอดสด 7 ประเภทที่ต้องถ่ายทอดสดทางหน้าทีวีอย่างเคร่งครัด ซึ่งผู้รับใบอนุญาตต้องสามารถแพร่ภาพรายการฟรีทีวีภาคพื้น โดยปราศจากข้อจำกัดในทุกแพลตฟอร์ม.... บนบริบทเดียวกับที่ทรูวิชั่นส์ และกสทช.ดำเนินการกรณีถ่ายทอดวอลเลย์บอลเนชั่นส์ ลีก 2018
ขณะเดียวกัน...ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ได้เข้าชี้แจงกับศาลทรัพย์สินทางปัญญา และการค้าระหว่างประเทศกลาง อีกครั้ง เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ที่จะต้องดูแลการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทยไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์และต้องเป็นไปตามกติกาข้อกำหนดของ FIFA จึงได้ร้องขอศาลเพื่อพิจารณาให้มีคำสั่งระงับการถ่ายทอดการออกอากาศผ่าน AIS Play บนมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่เนื่องจาก แอพ AIS Play บนมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่ไม่เคยได้รับอนุญาตจากทางทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป และ FIFA ล่วงหน้า จึงไม่มีสิทธิที่จะเผยแพร่ และอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องทางลิขสิทธิ์จากฟีฟ่าที่จะส่งผลต่อประเทศไทยในเรื่องลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกในครั้งนี้และในอนาคตต่อไปได้…และทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป ขอยืนยันว่า คำร้องของบริษัทและคำสั่งของศาลเป็นกรณีการให้ระงับการเผยแพร่ผ่าน AIS Play ที่เป็นแอพบนมือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่เท่านั้น
ถึงตรงนี้...โลกการค้า...คิดว่าน่าจะจบลงได้ด้วยดีแล้ว...เรื่องของลิขสิทธิ์ก็เรื่องหนึ่ง...เรื่องของการเข้าถึงเนื้อหาตามกติกา “มัสต์ แคร์รี่” ก็เรื่องหนึ่ง....แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่ากรณีใดผู้ประกอบการต้องไม่ใช้ “ผู้บริโภคและประชาชนเป็นตัวประกัน”...nn
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี