ข่าวทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี 13 ชีวิต ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หมู่บ้านจ้อง ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2561 ได้รับความสนใจทั้งสื่อในประเทศและต่างประเทศ
การช่วยเหลือเริ่มเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน โดยมีผู้ให้ความช่วยเหลือทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมกันทั้งหมดแล้วประมาณ 5,000 คน มีทั้งการดำน้ำ ขุดเจาะถ้ำ เพื่อดูดน้ำออก และหาโพรงที่จะเข้าไป นับว่าเป็นภารกิจที่ยากลำบากแสนสาหัส ในเวลาที่ค้นหา สภาพภูมิอากาศไม่เป็นใจ บางวันมีฝนตก ระดับน้ำสูงขึ้น แต่ในที่สุด 13 ชีวิตได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย โดยเด็กและโค้ชชุดสุดท้ายออกมา เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม รวมเวลาปฏิบัติการ ครั้งนี้ 412 ชั่วโมง 29 นาที 05 วินาที
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ได้มีการเปิดเผยภาพและคลิปวีดีโอแรกของกลุ่ม 13 ชีวิต หลังจากนักดำชาวอังกฤษพบอยู่ห่างจากจุดพัทยาบีช 400 เมตร ถือเป็นภาพแห่งความปีติยินดี เพราะเป็นที่รับรู้ว่า ทั้ง 13 ชีวิตยังปลอดภัย
ภาพถ่ายและคลิป 13 ชีวิตทีมหมูป่า อาจมีประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิเด็กเกิดขึ้นได้ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอข่าว แนวคิดเรื่องสิทธิเด็กถือเป็นเรื่องระดับชาติ ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กค.ศ. 1989 (พ.ศ.2532) (Convention on the Rights of the Child) อนุสัญญานี้ เด็ก หมายถึง บุคคลทุกคนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีอนุสัญญานี้ มีการกำหนดมาตรฐานสิทธิมนุษยชนของเด็ก เพื่อช่วยให้ประเทศต่างๆ ให้ความคุ้มครองดูแลเด็กได้อย่างเหมาะสม
เกือบทุกประเทศทั่วโลกได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก รวมถึงประเทศไทยที่เป็นภาคีเมื่อปีพ.ศ. 2534 สิทธิของเด็กที่สำคัญตามอนุสัญญานี้ คือ (1) สิทธิในการอยู่รอด (2) สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง (3) สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา และ (4) สิทธิในการมีส่วนร่วม
เมื่อประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญานี้ จึงต้องมีการตรากฎหมาย เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิของเด็กให้ได้รับความคุ้มครอง
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2534 เป็นกฎหมายฉบับแรกที่ให้การคุ้มครองสิทธิเด็ก โดยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสื่อมวลชนคือ การโฆษณาซึ่งคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว ห้ามระบุชื่อ หรือแสดงข้อความ หรือกระทำการด้วยประการใดๆ ที่จะทำให้รู้จักตัวเด็กหรือเยาวชนที่เป็นจำเลย เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับแต่กฎหมายฉบับนี้ คุ้มครองเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นจำเลยในศาลเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมถึงเด็กและจำเลยที่ตกเป็นผู้ต้องหาหรือในชั้นพนักงานสอบสวน
พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 ได้ถูกยกเลิกโดยพ.ร.บ. ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวพ.ศ. 2553 ในส่วนของการปฏิบัติต่อเด็ก (อายุไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์) และเยาวชน (อายุเกิน 15 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์) รวมถึงครอบครัว ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ ได้มีการขยายขอบเขตการคุ้มครองจากเดิมที่จำกัดเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นจำเลยในศาล โดยให้รวมถึงเด็กและเยาวชนที่ตกเป็นผู้ต้องหาในชั้นพนักงานสอบสวนด้วย
นอกจากนี้ ยังให้การคุ้มครองเด็กหรือเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด โดยไม่ให้เจ้าพนักงานผู้จับกุมเด็กหรือเยาวชน หรือพนักงานสอบสวนจัดให้มี หรืออนุญาตให้มี หรือยินยอมให้มีการถ่ายภาพหรือบันทึกภาพเด็ก หรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการสอบสวน รวมถึงห้ามไม่ให้บันทึกภาพ แพร่ภาพ พิมพ์รูป หรือบันทึกเสียง แพร่เสียงของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือโฆษณาข้อความซึ่งปรากฏในทางสอบสวนของพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือในทางพิจารณาคดีของศาลที่อาจทำให้บุคคลอื่นรู้จักตัว ชื่อตัว หรือชื่อสกุลของเด็กหรือเยาวชนนั้น
กฎหมายข้างต้นเป็นกรณีที่เด็กหรือเยาวชนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด การบันทึกภาพของเด็กที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ที่ถือว่ามีความสำคัญฉบับหนึ่ง คือ พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 “เด็ก” ตามพ.ร.บ.นี้ หมายถึงบุคคลที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส มาตรา 27 มีหลักการสำคัญ คือ ห้ามโฆษณาหรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็ก โดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจ ชื่อเสียง หรือเกียรติคุณ หรือเพื่อแสวงหา ประโยชน์สำหรับตัวเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ
ในปัจจุบัน การถ่ายรูปสามารถทำได้ง่าย โดยใช้อุปกรณ์มือถือ ทำให้คนจำนวนไม่น้อยหรือแม้กระทั่งพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ถ่ายรูปเด็กๆ หรือบุตรหลานของตน ในสภาวะที่ผู้ถ่ายอาจเห็นว่าน่ารักและส่งต่อ หรือแชร์ในสังคมออนไลน์ แต่แท้จริงแล้ว ภาพเหล่านั้นอาจทำให้เด็กเกิดความอับอาย หรือถูกเพื่อนล้อ เช่น ภาพเด็กจ้ำม่ำไม่ใส่เสื้อ ภาพวีดีโอเด็กพูดไม่ชัด
ผู้ใหญ่อาจเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกสนาน บางภาพมีการนำไปตัดต่อ มีเด็กจำนวนไม่น้อย เมื่อถูกบันทึกภาพเหล่านี้ ทำให้ไม่อยากไปโรงเรียนกลายเป็นเด็กซึมเศร้า ในต่างประเทศมีเด็กที่ทนความอับอายไม่ไหว ต้องย้ายโรงเรียน บางรายคิดสั้นพยายามฆ่าตัวตาย
ภาพและคลิปตอนที่พบทีมหมูป่า 13 ชีวิต ในถ้ำครั้งแรก ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก เพราะไม่มีลักษณะใดๆ ที่ทำให้เด็กเสียหาย อีกทั้งชาวโลกกำลังติดตามข่าว และเอาใจช่วย อย่างใจจดใจจ่อ
แต่ตอนที่ลำเลียงเด็กออกจากถ้ำ ขึ้นรถพยาบาล และเฮลิคอปเตอร์ เพื่อส่งโรงพยาบาล จะเห็นว่า มีการป้องกันเป็นอย่างดี ไม่ให้ถ่ายภาพเด็ก เพราะเด็กอยู่ในสภาพที่อิดโรย ไม่น่าดู และจะเป็นการละเมิดสิทธิเด็ก ซึ่งต้องชมเชยบรรดาคณะทำงานกู้ภัยที่คำนึงถึงเรื่องสำคัญนี้
การเผยแพร่ ส่งต่อ ภาพเกี่ยวกับเด็ก ต้องระมัดระวัง เพราะอาจผิดกฎหมายได้ แม้จะมีเจตนาดีก็ตาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี